เคทีซีร่วมเติมความสุขจาก “งานหลัก” สู่ “งานอดิเรก” เจาะไลฟ์สไตล์สมาชิกรักหนังสือ สัตว์เลี้ยง และกลุ่มของเล่นและเกมส์ หลังเล็งเห็นศักยภาพและแนวโน้มจากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในฐานช่วงครึ่งปีแรกที่เติบโตขึ้น 15% วางแผนจับมือพันธมิตรรายใหญ่มอบสิทธิประโยชน์หลากหลาย และกิจกรรมอัดแน่น คาดสิ้นปียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในสามหมวดนี้จะเติบโตรวมไม่ต่ำกว่า 20%
นายชัยพล กฤตยาวาณิชย์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เคทีซีมองว่างานอดิเรกมีความสำคัญไม่แพ้งานหลัก โดยอ้างอิงจากการศึกษาทั่วโลก พบว่างานอดิเรกไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเครียดจากการทำงาน แต่ยังพัฒนาและเสริมความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงสามารถยึดเป็นอาชีพสร้างรายได้อีกด้วย นอกจากนี้การทำการตลาดกลุ่มนี้ยังช่วยให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Marketing) ซึ่งถือเป็นการต่อยอดและสานความสัมพันธ์กับสมาชิกให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยช่วงแรกเคทีซีเลือกโฟกัสสามกลุ่มงานอดิเรกหลักคือ หนังสือ (Reading and Learning) สัตว์เลี้ยง (Pet Lover) และกลุ่มของเล่นและเกมส์ (Toys and Games) เนื่องจากแต่ละกลุ่มมีสมาชิกที่ชื่นชอบ และหลงใหลจำนวนมาก โดยเมื่อพิจารณาตัวเลขยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในสามหมวดรวมกัน มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเปรียบเทียบครึ่งปีแรกของปี 2559 กับครึ่งปี 2558 เติบโตถึง 15% (หมวดหนังสือเติบโต 3% หมวดของเล่นและเกมส์เติบโต 29% และหมวดสัตว์เลี้ยงเติบโต 24%) ทางด้านจำนวนสมาชิกที่ใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในสามหมวดดังกล่าวก็ปรับตัวเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเปรีบบเทียบตัวเลขครึ่งปีแรก 2559 กับครึ่งปีแรก 2558 เติบโตถึง 12 % (แยกตามหมวด หมวดหนังสือเติบโต 6 % และหมวดของเล่นและเกมส์เติบโต 35 % หมวดสัตว์เลี้ยงเติบโต 23 %) เคทีซีจึงได้จับมือพันธมิตรรายใหญ่ จัดเต็มมอบสิทธิประโยชน์เพื่อความสุขของสมาชิกในรูปแบบต่างๆ อาทิ การมอบส่วนลด หรือของพรีเมี่ยม เสริมด้วยจุดแข็งของการใช้คะแนนสะสม KTC FOREVER REWARDS แลกส่วนลดเพิ่มเติม และบริการแบ่งชำระ KTC FLEXI 0% รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมงานอีเว้นท์ต่างๆ และในอนาคตจะจัดให้มีเวิร์คช้อป กิจกรรมที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกที่มีความแตกต่างได้อย่างลงตัว
นายชัยพล กล่าวต่ออีกว่า โดยแบ่งเป็น 1.?สิทธิพิเศษในกลุ่มหนังสือ (Reading and Learning) เคทีซีมุ่งเน้นส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่านและการเรียนรู้ ต่อยอดให้สมาชิกพัฒนาตนเอง และมีองค์ความรู้เพิ่มขึ้น ซึ่งหมวดนี้ครอบคลุมสิทธิประโยชน์ ส่วนลดจากร้านหนังสือ ศูนย์หนังสือ สำนักพิมพ์ที่มีสาขาทั่วประเทศ อาทิ ร้านเอเชียบุ๊คส และบุ๊คกาซีน (Asia Books / Bookazine) / ศูนย์หนังสือจุฬา (CU Book Center) / ซีเอ็ด บุ๊ค เซ็นเตอร์ (SE-ED Book Center) / สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี (DMG Books) และบริษัท แพน โฟ จำกัด (Pan Pho) ผู้นำด้านการจัดสัมมนาเสริมความรู้ในประเทศ รวมถึงได้เป็นภาคีพันธมิตรกับสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) มอบสิทธิพิเศษภายในงาน “สัปดาห์หนังสือ” โดยงานดังกล่าวมีกำหนดจัดโรดโชว์ตลอดปีไปตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ได้แก่ ขอนแก่น หาดใหญ่ อุดรธานี และกรุงเทพมหานคร 2.สิทธิพิเศษในกลุ่มสัตว์เลี้ยง (Pet Lover) การทำตลาดกลุ่มนี้ ในภาพรวมมีความหลากหลาย ครอบคลุมโรงพยาบาลสัตว์ ร้านอาหารและของใช้สัตว์ ร้านตัดขนและบริการต่างๆ ที่มีความแปลกใหม่ โดยสิทธิพิเศษ ประกอบด้วย ส่วนสดสูงสุดถึง 15% จากร้านค้าชั้นนำ อาทิ ร้าน เพ็ท เลิฟเวอร์ เซ็นเตอร์ และร้าน เพ็ท ซาฟารี (Pet Lover Center & Pet Safari) / ร้าน เพ็ท โปร กรุ๊ป (Pet Pro Group) / ร้านกิตติศักดิ์ เพ็ท มาร์ท (Kittisak Pets Mart) / ร้านด็อก เดย์ (DogDays) รวมถึงร้านเพ็ท มาสเตอร์ (Pet Master) ธุรกิจเพื่อสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมเพื่อน้องหมาน้องแมวโดยเฉพาะ และ 3. สิทธิพิเศษในกลุ่มของเล่นและเกมส์ (Toys and Games)? สำหรับกลุ่มของเล่นเด็ก ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางสมอง เพิ่มจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ และกลุ่มของเล่นสะสมสำหรับผู้ใหญ่ ที่เป็นสินค้ามีราคาสูง เจาะกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ ซึ่งในเบื้องต้นมีสิทธิประโยชน์ในรูปของส่วนลด และการใช้คะแนน จากพันธมิตรในหมวด อาทิ ร้านค้าในเครือของคิดโด แปซิฟิค? (Kiddo Pacific) / ร้านทอยส์ “อาร์” อัส (Toys “R” Us) / ร้านเพลย์ เฮ้าส์ (Play House) และร้านขายอุปกรณ์เกมส์เซสท์ (Zest) ศูนย์การค้าเมก้า พลาซ่า (Mega Plaza)
“ทั้งนี้เคทีซีมั่นใจว่า การมุ่งทำการตลาดไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Marketing) ที่โฟกัสสามกลุ่มงานอดิเรกหลัก ได้แก่ หนังสือ (Reading and Learning) สัตว์เลี้ยง (Pet Lover) และของเล่นและเกมส์ (Toys and Games) จะได้รับการตอบรับด้วยดีจากสมาชิก ส่งผลให้สิ้นปี 2559 ยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในหมวดงานอดิเรกรวมสามหมวดเติบโตขึ้นเป็น 20% และยอดสมาชิกที่ใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในสามหมวดดังกล่าว เติบโตเพิ่มขึ้น 15%” นายชัยพลกล่าวทิ้งท้าย
ร่วมแสดงความคิดเห็น