นโยบายของรัฐบาล คสช.ให้ทุกหน่วยราชการปราบปรามยาเสพติด และป้องกันการลักลอบจำหน่าย และนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยการร่วมกันช่วยเหลือกัน ทุกหน่วยงานเร่งในการปราบปราม
พ.อ.ชัยยันต์ สิรสุนทร ผู้บังคับกองบังคับการ ควบคุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือที่ 1 ได้นำกำลัง 3 ชุดปฏิบัติการ จำนวน 30 นาย ออกทำการปิดล้อมบ้านเป้าหมายที่ทางสายลับได้แจ้งมาโดยเวลาประมาณ 06.00 น.ได้เข้าทำการตรวจที่หย่อมบ้านห้วยโป่งพัฒนา หมู่ที่ 1 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ จำนวน 3 หลังคาเรือน และได้ทำการตรวจพบยาเสพติดประเภทยาบ้า ได้ในบ้านไม่มีเลขที่จำนวน 2 หลังคาเรือน ซึ่งเป็นบ้านของชาวเขา
หลังแรกได้ยาบ้า จำนวน 254 เม็ด มีสีแดงส้ม จำนวน 251 เม็ด และสีเขียวจำนวน 3 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินในกระเป๋าย่ามสะพายสีเทา และได้ทำการตรวจค้นอีกหลังหนึ่ง พบยาบ้าใส่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินซุกซ่อนข้างฝาบ้าน จำนวน 55 เม็ด รวมทั้งหมดได้ 309 เม็ด เป็นยาบ้าที่ผลิตนอกประเทศที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ WY ทั้งสองเป้าหมาย การอัดเม็ดค่อนข้างจะไม่แน่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหารคาดว่าจะเป็นของกลุ่มมูเซอนอกประเทศ ที่กำลังแข่งกันผลิตและจำหน่ายในราคาที่ไม่แพง เพื่อต้องการให้จำหน่ายให้ได้มากและมีตัวแทนจำหน่ายมากขึ้น เพราะราคาจะถูกกว่าถ้าเข้าไปซื้อตะเข็บชายแดน จะจำหน่ายในราคาเม็ดละ 10 บาท
ซึ่งถ้าเป็นของกลุ่มว้าแดงจะแพงกว่า จำหน่ายในราคาเม็ดละ 15-20 บาท และได้ตรวจในพื้นที่ไร่ข้าวโพดพบร่องรอยการนำยาเสพติดมาฝังในไร่ข้าวโพด ที่ได้นำออกไปแล้วไม่นาน เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางลักลอบขนยาเสพติดส่งนายทุนโดยการเดินเท้าและทางจักรยานยนต์ สามารถผ่านเข้า อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ และผ่านเข้า อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย
ทาง พ.อ.ชัยยันต์ สิรสุนทร ได้นำเอาชุดปฏิบัติการเข้าทำการปฏิบัติการในพื้นที่ ที่ทางสายลับและประชาชนหรือพลเมืองดีที่แจ้งเข้ามา เพื่อต้องการให้ทำการช่วยปราบปรามและจับให้หมดไปในพื้นที่ ในการเข้าทำการปิดล้อมนั้นส่วนใหญ่เจ้าตัวผู้กระทำผิดจะไหวตัวหนีออกจากบ้านก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหาร จะเข้าถึงตัวเพราะเป็นหมู่บ้านที่การสัญจรไปมาในหน้าฝนจะลำบากรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น ที่จะเข้าได้บางพื้นที่ต้องเดินเท้าหลายกิโลเมตรซึ่งทางผู้กระทำผิดไหวตัวหลบหนีเพราะชำนาญทางและพื้นที่ จึงได้แต่ยาบ้าในบ้านที่ไม่มีเลขที่ และขยายผลหาเจ้าของบ้านยาก เพราะชนกลุ่มน้อยมีที่พักหลายที่ในหลายๆหมู่บ้าน และการสื่อสารจะลำบากทั้งที่คนในหมู่บ้านสามารถพูดไทยได้ แต่เมื่อถามจะเป็นใบ้ไม่เข้าใจภาษาไทย ส่วนตัวผู้ต้องหาทิ้งบ้านหนีไปได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น