ร่างท้องถิ่น อบต.หาย ต่อด้วยควบรวมพื้นที่ใกล้เคียง

b-7-52
นายธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ

คณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดย พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง รองประธานกรรมาธิการการปกครอง เป็นประธานในที่ประชุมเสวนาเรื่องความหวังและอนาคตของการปฏิรูปท้องถิ่นไทย ตามกฏหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ณ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูป กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น นักวิชาการ ตัวแทนจากองค์กรปครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ จำนวน 150 คนเข้าร่วมเสวนา โดยจังหวัดเชียงใหม่ มีนายธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะเป็นตัวแทนเข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้

ประเด็นการเสวนาส่วนหนึ่งอยู่ที่ร่างการปฏิรูปโครงสร้างท้องถิ่น โดยในจังหวัดหนึ่งๆ จะกำหนดให้มีองค์การบริหารส่วนจังหวัด และเทศบาล สำหรับ อบต.นั้นให้ยกเป็นเทศบาล โดยเทศบาลแบ่งให้มี 3 ประเภท ได้แก่ เทศบาลตำบล ประชากร ไม่เกิน 15,000 คนเทศบาลเมือง ประชากร เกิน 15,000 คนแต่ไม่เกิน 50,000 คน เทศบาลนคร ประชากรเกิน 50,000 คนขึ้นไป

ทั้งนี้ ไม่รวมถึงเทศบาลตำบล เมือง ที่ตั้งอยู่ก่อนกฏหมายนี้ใช้บังคับ ส่วนการควบรวมนั้นอบต.และเทศบาลใดมีประชากรต่ำกว่า 7,000 คน มีรายได้ไม่รวมเงินอุดหนุนต่ำกว่า 20 ล้านบาท อยู่ในอำเภอเดียวกันให้ควบรวม ตามเจตนารมณ์ของประชาชนในพื้นที่ มีคณะกรรมการควบรวมระดับอำเภอและระดับจังหวัดเป็นผู้พิจารณา เมื่อยุบรวมกันแล้วให้ผู้บริหารและสมาชิกพ้นจากตำแหน่งทันทีและจัดให้มีการเลือกตั้งภายในกำหนด 60 วัน ส่วนสมาชิกสภาตำบล ตามเกณฑ์ประชากร ไม่เกิน 7,000 มี สท. 12 คน ประชากร 7,000-15,000 คน มี สท.ได้ 15 คน ประชากร 15,000-50,000 คน มี สท.ได้ 18 คน และการแบ่งเป็นเขตเลือกตั้ง เขตละ 3 คน สำหรับเทศบาลเมือง เทศบาลนคร ให้แบ่งตามเกณฑ์ประชากร ผู้บริหารเทศบาล ให้เลือกตั้งโดยตรง มีวาระ 4 ปี แต่ต้องไม่เกิน 2วาระ วุฒิการศึกษาปริญญาตรี หรือเทียบเท่าหรือเคยเป็น สท ผู้บริหาร มาก่อน

ส่วนองค์การบริหารส่วนจังหวัดให้คงเดิม แต่อาจมีเพิ่มสมาชิกสภาเขต ซึ่งแล้วแต่ฐานประชากร สำหรับผู้บริหารท้องถิ่น เทศบาลตำบลมีรองนายกฯ3 คน มีเลขา ที่ปรึกษา 3 คน เทศบาลเมือง มีรองนายกฯ 4 คน เลขาฯที่ปรึกษา 4 คน เทศบาลนครมีรองนายกฯได้ 5 คน มีเลขาที่ปรึกษาได้ 5 คน เป็นต้น

ด้านนายธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ ที่เข้าร่วมประขุมเสวนาในครั้งนี้ กล่าวว่า สำหรับร่างบริหารงานบุคคล ในมาตร 147 ที่หนดสัดส่วนให้ท้องถิ่นปรับแผนลดอัตรากำลังลูกจ้างตามภารกิจลง ให้เหลือร้อยละ 25 ของข้าราชการที่มีอยู่ ยกตัวอย่างเช่น เทศบาลเมืองแม่เหียะ มีข้าราชการ 40 คน จะมีลูกจ้างตามภารกิจได้เพียง 10 คน เป็นต้น ทั้งนี้ร่างบริหารงานบุคคลยังอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นของ อปท.ทั่วประเทศ ซึ่งจะได้มีการประชุมในสันนิบาตเทศบาลต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น