ฤทธิ์พายุราอีถล่ม ฝายผาตั้งแม่ทาพัง พ่อเมืองลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม

4%e0%b8%aa%e0%b8%b0%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%87
ฤทธิ์ราอี…….ชาวบ้าน อินทขิล อ.ป่าซางจ.ลำพูน ช่วยกันนำเอากระสอบทรายกั้นสะพาน ที่ลำน้ำทาไหลผ่าน รวมทั้งช่วยกันเอาเศษไม้ออกจากเส้นทางน้ำไหลหลังฝายกั้นผาตั้ง อ.แม่ทา พัง ทำให้น้ำทะลักท่วมพื้นที่ อ.แม่ทา และอ.ป่าซาง จากฝนหนักติดต่อกันหลายวัน

เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ลำพูนทำเอา “ฝายผาตั้ง” พังน้ำทะลักแม่น้ำทาท่วมบ้านเรือนชาวบ้านและพัดสะพานขาดชาวบ้านไม่สามารถผ่านไปมาได้ ขณะที่ อำเภอป่าซาง น้ำแม่ทาไหลท่วมสะพานชาวบ้านช่วยกันนำกระสอบทรายและเศษไม้ออก นายอำเภอสั่งปิดสะพานหวั่นอันตรายขณะที่โรงเรียนใบบุญป่าซาง ผอ.สั่งปิดโรงเรียนแล้วเพราะน้ำเริ่มล้นตลิ่ง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 ก.ย. 59 จากอิทธิพลของพายุ “ราอี”ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ โดย เฉพาะ ที่ จ.ลำพูน พื้นที่บ้านอินทขิล ต.ป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน แม่น้ำทาได้ไหลเชี่ยวกรากลงมายังพื้นที่ อ.ป่าซาง อย่างรวดเร็วส่งผลให้ระดับน้ำล้นท่วมสะพานข้ามระหว่าง อ.เมืองลำพูน กับ อ.ป่าซาง จ.ลำพูนไม่สามารถสัญจรไปมาได้เนื่องจากระดับน้ำสูงทางเจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายกั้นไม่ให้ชาวบ้านผ่านเนื่องจากเกรงจะได้รับอันตรายขณะเดียวกันชาวบ้านได้ช่วยกันนำเอาเศษไม้ออกจากสะพานเพื่อป้องกันการพังของสะพาน

ทางด้านนายประทีป การมิตรี นายอำเภอป่าซาง จ.ลำพูน กล่าวว่า ได้รับรายงานว่า ฝายกั้นน้ำผาตั้งอ.แม่ทา จ.ลำพูน พังทำให้น้ำไหลลงแม่น้ำทาอย่างรวดเร็ว ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันสอดส่องดูแลรวมทั้งจัดเวรยามคอยตรวจการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงขณะนี้ระดับน้ำทรงตัวและมีทีท่าว่าจะลดลงเรื่อย ๆแต่เราก็ยังไม่นิ่งนอนใจเพราะอาจจะมีฝนตกลงมาสมทบด้วย ตอนนี้ได้ร่วมกับเทศบาลตำรวจ และผู้นำชุมชน ช่วยกันดูแลสถานการณ์ จนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติส่วนพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมตอนนี้นอกเหนือจากที่กั้นพนังน้ำแล้วเริ่มมีน้ำท่วมขังบ้างแล้ว ตอนนี้ได้ทำการสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือและที่โรงเรียนใบบุญป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูนทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้สั่งปิดโรงเรียนและแจ้งให้ผู้ปกครองมารับเด็กนักเรียนกลับบ้านแล้วเนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัยเพราะระดับน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมถนนบริเวณหน้าโรงเรียน

ทางด้านนายประพันธ์ สนิทมัจโร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำพูนแจ้งว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีน้ำป่าไหลท่วมบ้าน ผาด่าน หมู่ 10 ต. ทากาศมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม จำนวน 30 ครัวเรือน สะพาน คสล.(อุทกภัย 2539)ข้ามน้ำขนาดกว้าง7เมตร ยาว 30 เมตร ได้พังลงขาดเป็น 2 ช่วงไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งสะพานดังกล่าวเชื่อมระหว่างบ้านดอยยาว-บ้านห้วยป๊อกราษฎร 35 ครัวเรือน ประมาณ150 คนถูกตัดขาดสัญจรไปมาไม่ได้เนื่องจากมีเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านเพียงเส้นทางเดียวจังหวัดลำพูนขอรับการสนับสนุนสะพานแบรี่ย์ โดยอธิบดีกรม ปภ.สั่งการให้ศูนย์ ปภ เขต10 ลำปาง สนับสนุนมาพาดเชื่อมเส้นทางดังกล่าวแล้ว

b18
นายณรงค์ อ่อนสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ไปตรวจสะพานที่พังเสียหายและ เยี่ยมเยียนประชาชน

รายงานสถานการณ์ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ย. 59 นายณรงค์ อ่อนสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ไปตรวจสะพานที่พังเสียหายและ เยี่ยมเยือนประชาชน พร้อมกับได้สั่งการให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน ได้ติดต่อประสานงาน เพื่อขอใช้สะพานแบริ่งของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 (จังหวัดลำปาง) เพื่อมาเชื่อมต่อกับสะพานที่ขาด เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้สัญจรได้ชั่วคราว ส่วนที่บ้านห้วยป้าง ตำบลทากาศ อำเภอแม่ทา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และ ไหลเชี่ยว ท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย และไร่นาจมน้ำประมาณ 100 ไร่

สำหรับที่อำเภอป่าซาง ระดับน้ำแม่ทาที่บริเวณสะพานแม่ทาหลง เขตติดต่อระหว่างอำเภอเมืองลำพูน กับ อำเภอป่าซาง ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นโดยลำดับ และน้ำไหลเชี่ยว และตั้งแต่ช่วงเย็นเริ่มลดลงแล้ว
ขณะที่บ้านเหล่าหมุ้น หมู่ที่ 10 ตำบลเหล่ายาว บ้านดอยก้อม หมู่ที่ 6 และบ้านห้วยห้าตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง น้ำได้ท่วมถนนสายลำพูน-ลี้ และบ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ สำหรับบริเวณถนนดังกล่าวขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว รถยนต์สามารถแล่นสัญจรได้ โดยเจ้าหน้าที่ของอำเภอบ้านโฮ่ง ร่วมกับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำพูน อาสาสมัครและ ประชาชนได้ให้การช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของในบ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วมและ ได้เฝ้าระวังป้องกันตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว

ทางด้านศูนยอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแแจ้งว่า พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 13 – 19 กันยายน 2559ออกประกาศประจำวันอังคารที่ 13 กันยายน 2559คาดหมายลักษณะอากาศประเทศไทยจะมีฝนตกทั่วไปกับมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกและภาคใต้ เกือบตลอดช่วง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา คือ พายุโซนร้อน “ราอี”(RAI) บริเวณทางตอนใต้ของประเทศลาว คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าประเทศไทยบริเวณตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ในช่วงวันที่ 13-15 ก.ย.59

บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนชุกเป็นบริเวณกว้างหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ในขณะที่ในช่วงวันที่ 13-19 ก.ย. ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางและภาคใต้ข้อควรระวัง : ในช่วงวันที่ 13-15 ก.ย. ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกต่อเนื่องโดยมีฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น