ผู้เขียนใคร่เล่าถึงที่มาของชื่อ “NCU World Excellence” ที่สามารถกล่าวถึงผลงานระดับโลก ว่าเป็นของบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ เริ่มจาก ประติมากรรม “อินทรีแกร่ง…แห่งนอร์ท-เชียงใหม่” ออกแบบโดย ศาสตราจารย์ ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2540 (สาขาจิตรกรรมและสื่อผสม) ท่านนับเป็นศิลปินต่างชาติคนแรก ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น ศิลปินยอดเยี่ยม 1 ใน 10 ประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ได้รับรางวัล Grand Prize และเป็นคนเอเชียเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัล “The Annual Artist’ Award” จากผลงานที่แสดง ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอ๊คแลนด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
“อินทรีแกร่ง…แห่งนอร์ท-เชียงใหม่” เป็นรูปแม่นกอินทรีโอบกอดลูกน้อย เปรียบประดุจ การดูแลเอาใจใส่ลูกศิษย์ด้วยความรักความอบอุ่นของครูอาจารย์ เป็นสัญลักษณ์ที่ยึดมั่นคุณลักษณะอันโดดเด่น 3 ประการของนักศึกษา อันได้แก่ ความมีวิสัยทัศน์ (Vision) ความกล้าหาญ (Courage) และความเป็นผู้นำ (Leadership) จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เนื่องในโอกาสครบรอบคล้ายวันเกิดของอาจารย์ ดร.ณรงค์ ชวสินธุ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ นับเป็นการพบกันครั้งแรกของศาสตราจารย์ ดร.กมล ทัศนาญชลี และท่านอธิการบดี โดยมี ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย ที่ปรึกษาอธิการบดี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของอาจารย์กมล เมื่อครั้งพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา วงสนทนาได้กล่าวถึงการก่อสร้าง “อินทรีแกร่ง…แห่งนอร์ท-เชียงใหม่” ทราบต่อมาว่าอาจารย์กมล ได้วาดร่างแบบ “พญาอินทรี” ในขณะที่ท่านอยู่บนเครื่องบินระหว่างเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกา พญาอินทรีถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยความมุ่งมั่นในทุกรายละเอียด และถ่ายทอดรูปลักษณ์ตามภาพร่างฝีมือของอาจารย์กมล โดยมี อาจารย์พีระพงศ์ ดวงแก้ว คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ทำแบบจำลองพญาอินทรี ตัวของพญาอินทรี ตัดจากแผ่นโลหะสแตนเลสอย่างหนาด้วยเครื่องตัด เลเซอร์ขนาดใหญ่ มีความสูง 22 ฟุต เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์มีน้ำหนักถึง 1,200 กิโลกรัม ใช้เวลานานเกือบปี พญาอินทรีจึงเคลื่อนย้ายมาตั้ง ณ มหาวิทยาลัยนอร์ท – เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2557
จนกระทั่งวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยกน้ำหนัก ชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 4 ในนามประเทศไทย โดยมีพิธีเปิด “อินทรีแกร่ง…แห่งนอร์ท-เชียงใหม่” อย่างสมบูรณ์และสง่างาม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557 กลายเป็นงานชิ้นเดียวในโลกของศาสตราจารย์ ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2540 ที่ท่านมีเจตนารมณ์ว่า “ขอฝากงานประติมากรรมชิ้นนี้ ไว้เป็นทรัพย์สมบัติของจังหวัดเชียงใหม่” เนื่องจากท่านมิได้เรียกร้องค่าผลงานแต่อย่างใด นอกจากนี้อาจารย์ ดร.ณรงค์ ชวสินธุ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ในฐานะคนเชียงใหม่ก็ตั้งใจที่จะให้ “อินทรีแกร่ง…แห่งนอร์ท-เชียงใหม่” กลายเป็นแลนด์มาร์ค (Landmark) ของจังหวัดเชียงใหม่
ผู้เขียนใคร่ขอเล่าถึง ปรัชญาแห่งพญาอินทรี ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งนกทั้งหลาย เนื่องจากแข็งแรง บินเร็วและสง่างาม บทเรียนจากชีวิตของพญาอินทรี มันสามารถมีชีวิตได้นานถึง 70 ปี แต่ก่อนที่จะอยู่ได้นานถึงป่านนั้น นกอินทรีต้องมีการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของมันเมื่ออายุได้ 40 ปี ตอนนั้นกรงเล็บที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นของมันจะไม่สามารถจับสัตว์เป็นอาหารได้อีก จงอยปากที่แหลมคมเริ่มโค้งงอ เนื่องจากมันอายุถึง 40 ปีแล้วจึงมีปีกที่หนาและหนัก ขนที่ยาวรุงรังจะไปรวมกันที่อกของมันทำให้มันบินได้ลำบากมากขึ้น และเมื่อนั้น มันจะมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง นั่นก็คือตายไปซะหรือจะตัดสินใจที่จะอยู่ต่อไป ซึ่งต้องเผชิญความเจ็บปวดในขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงชีวิต เป็นระยะเวลายาวนานถึง 150 วัน ในขั้นตอนนี้มันจะต้องบินขึ้นไปบนยอดภูเขาสูง และอยู่ที่รังของมัน มันจะต้องใช้จงอยปากที่โค้งทื่อของมันจิกเคาะกับก้อนหิน ครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งจงอยหลุดออกมาหลังจากนั้นมันจะต้องรอให้จงอยปากอันใหม่งอกขึ้นมาและพอจงอยปากงอกออกมาแล้วที่นี้ก็ถึงตากรงเล็บที่งอกขึ้นมาใหม่ต่อจากจงอยปาก เมื่อกรงเล็บใหม่ที่งอกขึ้นมาสมบูรณ์แล้วมันก็จะเริ่มจิกถอนขนที่ดกหนาแล้วผลัดขนใหม่ หลังจาก 5 เดือนหรือ 150 วันผ่านไป ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงก็จะเสร็จสมบูรณ์ นกอินทรีก็จะบินสูงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้งพร้อมกับร้องเสียงดังก้องสะท้านฟ้าคล้ายดังเป็นการประกาศก้องว่า ตูข้ากำเนิดใหม่แล้วและจะมีชีวิตที่ยืนยาวต่อไปอีก 30 ปี
ผู้เขียนรู้สึกชื่นชมผลงานภาพถ่าย “อินทรีแกร่ง…แห่งนอร์ท-เชียงใหม่” ที่มีการมอบรางวัลรวมทั้งสิ้น 9 รางวัล ในพิธีรำลึกวันสถาปนามหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ โดยมี นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้มีเกียรติ อาทิ Jane Houston หัวหน้าแผนกกงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา (Consular Chief) /เกา แสนละวิน (Kaung San Lwin) กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสหภาพเมียนมา / พล.ต.ต.นิธิพัฒน์ พัฒนถาบุตร ผู้บังคับการอำนวยการภาค 5 / นายอมรพันธ์ นิมานันท์ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดเชียงใหม่ /นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย /นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช นายอำเภอหางดง /นายอินสม ปัญญาโสภา นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคเหนือแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นผู้มอบรางวัลครั้งนี้
รางวัลชนะเลิศ ประเภทบุคคลทั่วไป (ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท) ชื่อภาพ “มองอย่างพญาอินทรี” :: การทำการใดๆ ต้องมองด้วยวิสัยทัศน์กว้างไกล เฉียบคม ดุจดังสายตาของพญาอินทรี ย่อมจะนำมาซึ่งความสำเร็จ (นายก่อเกียรติ จำปา) รางวัลชนะเลิศประเภทบุคลากรและนักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ (ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท) ชื่อภาพ “มองฟ้า ดั่งพญาอินทรี” (นายนิติธรรม ไชยสังข์)
…..มองสะท้อน จากพื้น ธุลี ฟ้าส่อง ทิวาราตรี เปรียบได้ ดั่งเงาแบ่ง ชั่วดี ผลก่อ กับตน พญาอินทรีนอร์ท-เชียงใหม่ ประทับไว้ ตราบนาน…..
เป็นเรื่องน่ายินดียิ่งที่มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ซึ่งมีศิษย์เก่าถึง 2 คนได้รับรางวัลระดับโลก โอลิมปิคเกมส์ รวม 3 เหรียญรางวัล คือ นางสาวพิมศิริ ศิริแก้ว (แต้ว) ศิษย์เก่าหลักสูตรรัฐประศาสนศาตรมหาบัณฑิต นักกีฬายกน้ำหนักเหรียญเงิน กีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 13 (Rio Games 2016) และเหรียญเงิน กีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 30 (London Games 2012) / รวมถึง ร้อยเอกหญิงประภาวดี เจริญรัตนธารากูล (เก๋) ศิษย์เก่าหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิตและหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิค 2008
ในงานมีการสัมภาษณ์ขวัญใจชาวไทยทั้งสองคน โดยนายปรัชญา กันทวี ผู้ประกาศจาก NBT ทั้งนี้ นางสาวพิมศิริ ศิริแก้ว (แต้ว) เล่าว่า “ตอนอายุ 15 ปี คุณลุงพามาสมัครที่โรงเรียนกีฬาชลบุรี ตอนอายุ 17 ปี คุณบุษบา ไปเห็นความสามารถจึงชักชวนมาเก็บตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ แต้วเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ พอเข้ามาเก็บตัวทีมชาติ และเห็นรุ่นพี่ที่แข่งโอลิมปิคทีมชาติไทย พี่ไก่ ปวีณา ทองสุข และเริ่มมาเก็บตัวกับพี่เก๋ ปี 2008 ไปแข่งโอลิมปิค ปักกิ่งกับพี่เก๋ ปีนั้นพี่เก๋ได้เหรียญทอง และก็รู้ว่าเราอยากเป็นเหมือนพี่เขา ตอนไปรับพี่เก๋ที่สนามบิน เราตั้งใจว่าสักวันเราจะต้องได้อยากพี่เขา ให้ประชาชนคนไทยมารับเราที่สนามบิน หลังจากนั้นก็ฝึกซ้อมทุกวัน พักแค่วันเดียวในหนึ่งอาทิตย์ และใช้ความพยายามทุกวันจนได้มาถึงวันนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่งของการเรียนปริญญาโท เรียนเสาร์-อาทิตย์ ตอนช่วงเก็บตัวโอลิมปิค วันเสาร์จะเป็นวันที่ต้องซ้อมหนักมาก ถามว่าท้อไหม มีบ้าง แต่เป็นอนาคตของเรา เราไม่อยากขาดเรียน เราอยากมีความรู้ เรียนเสร็จต้องกลับไปฝึกซ้อม จะเหนื่อยกว่าทุกคนที่ซ้อม เป็น 2 เท่า การฝึกซ้อมแต้วเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนเรียนก็จะทำกิจกรรมที่อาจารย์วางไว้อย่างเต็มที่ร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่น จะซ้อมช่วง 6.00 โมง ถึง 7.00 โมงเข้า แต่งตัวเพื่อที่จะมาเรียนหนังสือ จริงๆ ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยดูแลแต้วด้วย เพราะแต้วจะบอกอาจารย์ว่าของแต้วจะมาเรียนช้าหน่อย และจะขอออกก่อนเวลาคือ บ่ายสามครึ่ง เพราะต้องเตรียมตัวซ้อม อาจารย์ก็อนุญาตเพราะรู้ว่าเรามีหน้าที่อีกส่วนหนึ่งที่ต้องไปทำ ผลงานสำคัญ และภาคภูมิใจ ของแต้วคือ 1 เหรียญเงิน การแข่งขันกีฬายกน้ำหนักโอลิมปิค 2016 ริโอเกมส์ ประเทศบราซิล ครั้งนี้ ขอบคุณทางมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ที่ให้เกียรติแต้ว ได้รับความรู้เพื่ออนาคต แต้วจำได้ว่าที่เรียนมา ทั้งอาจารย์ ทั้งอธิการบดี ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ได้รับการดูแลให้ความอบอุ่น ดูแลนักกีฬาเหมือนลูก ให้ลูกได้เรียน ให้ลูกได้มีอนาคต น้องๆที่เป็นนักกีฬาและได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ รู้สึกดีใจ สำหรับแต้วต้องขอขอบคุณมากๆ ที่ทำให้แต้วได้รับความรู้และมีอนาคต ร่วมถึงเพื่อนๆร่วมรุ่นด้วย ต้องขอขอบคุณแทนน้องๆด้วยที่ทางมหาวิทยาลัยรับนักกีฬาเข้ามาเรียนที่นี่ แต้วก็ไม่มีอะไรจะตอบแทน นอกจากการทำชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย ทำให้อาจารย์ ทำให้อธิการบดี มีรอยยิ้มในวันนี้ และแต้วต้องขอขอบคุณแรงใจแรงเชียร์ที่ทุกคนส่งมาให้กับแต้วและนักกีฬาทีมชาติไทยทุกประเภทกีฬาและทุกคน แต้วเชื่อว่านักกีฬาทุกคนเป็นฮีโร่ของประเทศไทย และวันนี้ต้องขอขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ และต้องขอขอบคุณชาวเชียงใหม่ที่แต้วได้มาอยู่ประมาณ 7 ปี แต้วเชื่อว่าวันนี้คนเชียงใหม่มีความสุขมีรอยยิ้ม และต้องขอบคุณท่านนายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ซึ่งแม่บุษบา จะมาดูการฝึกซ้อมของทุกคนทุกวัน แต้วเชื่อว่าเป็นความสุขของแม่บุษบา และเวลาเด็กได้เหรียญมาหรือแม้แต่แต้วที่ได้เหรียญในวันนี้ เชื่อว่าแม่บุษบาภูมิใจที่สุด ต้องขอขอบคุณแม่บุษบาที่ช่วยดูแลทั้งอาหารการกินที่นอน ทุกอย่างดูแลเหมือนลูก ตลอดเวลาที่อยู่เชียงใหม่ ขอบคุณค่ะ”
ร้อยเอกหญิงประภาวดี เจริญ รัตนธารากูล (เก๋) เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิค 2008 ปักกิ่งเกมส์ กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ เพราะการเป็นนักกีฬา ยิ่งกีฬายกน้ำหนักต้องมีการเก็บตัวทั้งปี ต้องเรียนด้วย ซ้อมด้วย เป็นอะไรที่หนักมากๆ แต่ทางมหาวิทยาลัยได้ให้ความช่วยเหลือ จนเก๋จบปริญญาตรีและปริญญาโท ที่นี่ให้อนาคต ที่นี่ให้การศึกษา ต้องบอกว่าทั้งอาจารย์ ทั้งเพื่อนช่วยเก๋หมด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เก๋จะจบพร้อมเพื่อน เพราะตอนนั้นเป็นช่วงเก็บตัวเพื่อไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ แต่ก็คิดว่ายังไงการศึกษาก็สำคัญ เพราะอนาคตเมื่อเราเลิกเล่นกีฬา การศึกษาจะมาช่วยรองรับเรา ในเรื่องอาชีพในอนาคต ปัจจุบันเก๋ ทำงานที่กรมพลาธิการทหารบก จังหวัดนนทบุรีค่ะ”
ปิดท้ายความประทับใจด้วยความทรงจำดีๆ คือ การประทับลายนิ้วมือของนางสาวพิมศิริ ศิริแก้ว (แต้ว) นักกีฬายกน้ำหนักเหรียญเงิน กีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 13 (Rio Games 2016) และเหรียญเงิน กีฬาโอลิมปิค ครั้งที่30 (London Games 2012) เพื่อนำเก็บไว้สำหรับหอเกียรติยศ (Hall of Fame) ของมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ สมแล้วกับรางวัล “NCU World Excellence”
ผศ.บงกช สุทัศน์ ณ อยุธยา
ผู้ช่วยอธิการบดี ม.นอร์ท-เชียงใหม่
ร่วมแสดงความคิดเห็น