หนุนท่องเที่ยวรถไฟ สายวัฒนธรรมเหนือ

b-4เมืองรถม้าและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จับมือการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดพิธีลงนามความร่วมมือส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวทางรถไฟสายวัฒนธรรมลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ มุ่งพัฒนาคุณภาพและความหลากหลายของสินค้าและบริการในพื้นที่ เพื่อเพิ่มรายได้จากการขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยว พร้อมเริ่มขบวนรถไฟรอบปฐมฤกษ์ ปลายเดือนตุลาคมนี้ ตั้งเป้ามีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวในเวลา 5 ปี

เมื่อวันที่ผ่านมา นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในการลงนามความร่วมมือส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวทางรถไฟสายวัฒนธรรมลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย , นายสำเริง ไชยเสน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ , นายวินัย แก้วสว่าง นายสถานีรถไฟนครลำปาง , นายสมยศ วงศ์เจริญ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ , นายสนทยา ทองแต้ม สารวัตรงานเดินรถแขวงลำปาง , นางพัฒนา วงศ์วิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลการพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดลำพูน และ นายอารยะ ปิณฑะดิษ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการโดยสาร ณ สถานีรถไฟนครลำปาง

โดย นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จังหวัดลำปางเป็นจังหวัดที่มีอายุเก่าแก่ไม่น้อยกว่า 1,300 ปี มีประชากร 751,320 คน มีด้านการคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถเดินทางมาจังหวัดลำปางได้ทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบินโดยสาร เป็นแหล่งผลิตเซรามิกที่มากที่สุดในประเทส และการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่อำเภอแม่เมาะของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ ศาสนสถาน วัฒนธรรม หัตถกรรม ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและที่สำคัญเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีรถม้าให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดลำปาง กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้ดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟสายวัฒนธรรม ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ภายใต้โครงการพัฒนารูปแบบกิจกรรมและผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยว แผนงานส่งเสริมสร้างสรรค์ ศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล จึงได้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดพิธีลงนามความร่วมมือส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวทางรถไฟสายวัฒนธรรมลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มาจากทั้งภายนอกและภายในประเทศ โดยจัดให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เชิงวัฒนธรรม เพื่อให้มีรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวในเวลา 5 ปี
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีภูมิประเทศอันงดงาม ทรัพยาการธรรมชาติที่มั่นคง มีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ ภูมิอากาศที่น่าอยู่ ประชากรมีวิถีชีวิตขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมที่เก่าแก่และความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก ซึ่งเหมาะสมต่อการท่องเที่ยว รวมถึงการบริการทั้งทางด้านโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ที่มีมาตรฐาน มีระบบคมนาคมขนส่งทางบกและทางอากาศเชื่อมโยงเส้นทางอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้สนใจเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟจังหวัดลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ สามารถติดตามและร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้ระหว่างเดือนตุลาคม 2559 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยขบวนแรกจะเริ่มในครั้งที่ 1 วันที่ 22-23 ตุลาคม 2559 ขบวนรถไฟรอบปฐมฤกษ์ ครั้งที่ 2 วันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2559 เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ ครั้งที่ 3 วันที่ 3-4 ธันวาคม 2559 ขบวนวันพ่อ ครั้งที่ 4 วันที่ 24-25 ธันวาคม 2559 ขบวนสุขสันต์คริสต์มาสต์ ครั้งที่ 5 วันที่ 14-15 มกราคม 2560 ขบวนวันเด็กแห่งชาติ และครั้งที่ 6 วันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2560

ด้าน นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กิจกรรมส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวทางรถไฟ โดยใช้ขบวนทางรถไฟวิ่งระยะสั้นระหว่างจังหวัดลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์เพื่อการท่องเที่ยว เชื่อมโยงการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ช่วยขยายฐานนักท่องเที่ยว พร้อมยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว ส่งเสริมปีท่องเที่ยววิถีไทย 2559 ภายใต้โครงการ “เมืองต้องห้าม…พลาด” ของการท่องที่ยวแห่งประเทศไทยที่คัดสรรจังหวัดลำปางเป็น 1 ใน 12 เมืองที่มีศักยภาพและความพร้อมทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วิถีชีวิต และศิลปวัฒนธรรม

ทั้งนี้หากในอนาคตการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กำหนดนโยบายในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟ ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 การรถไฟแห่งประเทศไทยยินดีที่จะมีส่วนร่วมมในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟ เพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวแก่ปรนในพื้นที่จังหวัดลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ รวมทั้งกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ที่ยั่งยืนสืบไป รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวส่งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น