แม่แตงแชมป์ไข้เลือดออก ซิกายังน่าห่วง สสจ.ฯเฝ้าระวังต่อเนื่อง วอนคนช่วยกันปราบยุง

ยุงลายสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เฝ้าติดตามควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกาต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายและยุงภายในบ้านตนเองทุก 7 วันตามมาตรการ 3 เก็บ 5 ส. ก็จะปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสซิการวมทั้งไข้เลือดออก เผยสถานการณ์ โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่ต้นปีป่วยแล้วกว่า 3 พันราย ตายแล้ว 3 แม่แตงแชมป์คนติดเชื้อสูงสุด

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.59 นายแพทย์ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังและการวิเคราะห์ทางระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าโรคไข้เลือดออก ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยตั้งแต่ วันที่ 3 มกราคม – 18 กันยายน 2559 จำนวน 3,824 ราย เสียชีวิต จำนวน 3 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 15-24 ปี รองลงมาคืออายุ อายุ 25-34 ปี และอายุ 10-14 ปี ตามลําดับ โดยอำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอแม่แตง อำเภอแม่วาง อำเภอดอยสะเก็ดอำเภอเมือง และอำเภอสันกำแพง

สถานการณ์ไวรัสซิกาล่าสุดในวันที่ 19 กันยายน 2559 จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกาจำนวนทั้งหมด 13 ราย การจากตรวจหาซิกาในจังหวัดเชียงใหม่มีทั้งสิ้น 920 ราย มีผลเป็นบวก 13 ราย เป็นบุคคลทั่วไป 10 ราย หญิงตั้งครรภ์ 3 ราย ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รับทราบวิธีการป้องกันตนเองโดยข้อมูลจากการเฝ้าระวังในหญิงตั้งครรภ์ 3 คนที่ติดเชื้อไวรัสซิกาอยู่ในความดูแลของสูตินรีแพทย์สำหรับผู้ป่วยที่พบรายล่าสุดตรวจพบเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 เป็นหญิง อายุ 24 ปี ซึ่งพักอาศัยในพื้นที่ตำบลท่าศาลา และทำงานในพื้นที่ ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการตามมาตรการของกรมควบคุมโรคแล้ว

สำหรับอาการของผู้ป่วยที่พบติดเชื้อไวรัสซิกา ผู้ป่วยทั้ง 13 ราย ส่วนใหญ่ มีไข้ ต่ำๆ ออกผื่น อาการดีขึ้น ภายใน 3 – 5 วัน รักษาแบบผู้ป่วยนอก ขณะนี้อาการเป็นปกติทุกราย

มาตรการที่ทุกคนทำได้ และได้ผลดีคือการร่วมกันกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนนี้ซึ่งเป็นฤดูระบาดสูงสุดของโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ ตามมาตรการ 3 เก็บ คือ“เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ”เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ ไข้เลือดออก ไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกาให้ทำอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ รวมถึงการป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด โดยใช้ยาทากันยุง นอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวด ส่วนหญิงตั้งครรภ์แนะนำให้ทายากันยุงที่ทำจากสมุนไพร เช่นตะไคร้หอมส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อนั้น ทารกที่คลอดไม่ได้มีศีรษะเล็กแต่กำเนิดทุกราย จึงไม่ควรกังวลมากเกินไปอย่างไรก็ตามควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการดูแลติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิดหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เบอร์โทรศัพท์ 053-211048- 50 ต่อ 111

ร่วมแสดงความคิดเห็น