แม่ทัพภาค3ลุย-ปัญหายาเสพติด-บำบัดรักษาฟื้นฟู…

%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%96%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b9%8c-2

แม่ทัพภาค 3 เดินทางรับฟังสรุปผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาฝิ่น ยาเสพติด และความมั่นคงพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ พร้อมแจงแนวทางมาตราการดำเนินการในปี 2560 โดยเน้นการดำเนินการแบบคลอบคลุม 3 ประเด็นหลัก ป้องกัน ปราบปราม และ บำบัดรักษาฟื้นฟู เผยพื้นที่ใหญ่ 3อำเภอที่ยังพบปัญหา คือ อ.อมก๋อย อ.แม่ละมาด และ อ.ท่าสองยาง มีพื้นที่ 90 กว่าเปอร์เซ็น ของพื้นที่ปลูกฝิ่นทั้งหมดในประเทศไทย พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการทำลายล้างให้สิ้นซาก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ย.59 ที่โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พลโท สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาค 3 ได้เป็นประทานในการประชุมและติดตามรายงานการแก้ไขปัญหาฝิ่น ยาเสพติด และความมั่นคงพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ประจำปี 2559 โดยมี พลตรี โกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 พร้อมด้วย นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำข้าราชการพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ โดยในการนี้ทาง แม่ทัพภาค 3 ได้รับฟังผลการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งจากสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมา ภาพรวมพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่นจากสถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติดในห้วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนมีการรายงานการปลูกพืชเสพติดฝิ่น โดยจังหวัดเชียงใหม่ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นที่สุดจำนวนทั้งสิ้น 11 จังหวัด เมื่อพิจารณาในภาพรวมการลักลอบปลูกฝิ่นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จะพบว่าพื้นที่อำเภออมก๋อยมีการลักลอบปลูกฝิ่นมากที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ โดยคิดเป็นร้อยละ 42 ของพื้นที่ปลูกฝิ่นทั้งหมด
และจากสถานการณ์ที่ผ่านมารัฐบาลมีคำสั่งให้ ยกระดับพื้นที่อำเภออมก๋อยเป็นพื้นที่พิเศษ และให้จัดทำแผนปฎิบัติการในพื้นที่เป็นการเฉพาะ โดยมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นหน่วยรับผิดชอบ จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย โดย มอบหมายให้ กองพลทหารราบที่ 7 เป็นหน่วยรับผิดชอบ ดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ด้วยการประสานงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ , องค์กรในพื้นที่ , โดยการขยายผลโครงการหลวงเพื่อก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน และโครงการพระราชดำริ โดยมีภารกิจสำคัญ คือ เพื่อลดปัญหาการปลูกฝิ่น การป้องกันเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ ไม่ให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การบำบัด รักาา และฟื้นฟู ผู้เสพและติดยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีนโยบายที่ชัดเจนต่อผู้ติดยาเสพติดเรื้อรัง การปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดและอิทธิพลรวมทั้งปัญหาเกี่ยวเนื่องอื่นๆ
สำหรับสถานการณ์พื้นที่ปลูกฝิ่นในประเทศไทยประจำปี 2558/2559 พบมีพื้นที่ปลูกฝิ่นจำนวน 3,347 แปลงเนื้อที่ 2492.8 3 ไร่ เพิ่มขึ้นจากเดิม 511.14 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 26 โดยมีพื้นที่ปลูกสิ่งมากที่สุดในอำเภออมก๋อยจำนวน 1,567 แปลง จำนวน1065.67 ไร่ รองลงมาคืออำเภอแม่ระมาด และอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก อำเภอเชียงดาว และ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ในส่วนของพื้นที่ปลูกฝิ่นในอำเภออมก๋อยคิดเป็นร้อยละ 42 ของพื้นที่ปลูกประเทศเพิ่มขึ้น 93.48 ไร่หรือร้อยละ 9 ของปีที่ผ่านมา ปลูกมากที่สุดในตำบลนาเคียน ตำบลสบโขง ตำบลแม่ตื่น และตำบลยางเปียง
โดยทาง พลโท สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาค 3 ได้เผิดเผยว่า “ในส่วนของพื้นที่ภาคเหนือ หลักๆ นั้นจะมีอยุ่ 3 พื้นที่ใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย พื้นที่ อ.อมก๋อย พื้นที่ อ.แม่ละมาด และพื้นที่ อ.ท่าสองยาง โดยหากรวมพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอที่กล่าวมาคิดเป็นเปอร์เซ็นจะอยู่ที่ 90 กว่าเปอร์เซ็น ของพื้นที่ปลูกฝิ่นทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไปนั้นทางเจ้าหน้าที่จะต้องเน้นหนักในพื้นที่หมู่บ้านที่มีความรุนแรง ยกตัวเองเช่น ในพื้นที่ อ.อมก๋อย ที่มีหมู่บ้านทั้งหมด 270 กว่าหมู่บ้าน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าหมู่บ้านที่พบปัยหารุนแรงจริงๆ นั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 118 หมู่บ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปเน้นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่มีความรุนแรงเป็นหลักก่อน”
“ขณะเดียวกันในช่วงเริ่มตั้งแต่ปี 2560 ไปก็มีการดำเนินการทำแผนแม่บทในการแก้ไขปัยหาสถานการณ์การปลุกฝิ่น และปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ด้วย โดยในระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2560 – 2564 จะมีการเน้นการบูรณาการและความร่วมมือของทุกหน่วยงานในพื้นที่ให้คลอบคลุมทั้ง 3 ประเด็นหลักไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดรักษา ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด อย่างไรก็ตามในแง่ของนายทุนหรือผู้ที่เข้าสนับสนุนชาวบ้านนั้นน่าจะต้องมีการเพิ่มมาตรการและการเพิ่มข้อมูลข่าวสารให้มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของฝิ่น จะต้องมีการสร้างเครือข่ายให้มากขึ้นแล้วเน้นการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง” แม่ทัพภาค 3 กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น