พ่อเมืองเชียงใหม่ นำคณะลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือ “ลุงบุญศรี เขื่อนแก้ว” บุคคลผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม หลังล้มป่วยสารพัดโรค แถมยังมีภาระต้องเลี้ยงดูคนในบ้านที่ป่วยอีกหลายชีวิต นายกเทศมนตรีฯ ในพื้นที่ พร้อมทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่สภากาชาดรุดดูอาการ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลืออีกทาง
เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะเดินทางเข้าเยี่ยม ลุงบุญศรี เขื่อนแก้ว ชายวัย 60 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 160 บ้านปทุมนิเวศน์ ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งป่วยหลายโรค ทั้งโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และสายตาเริ่มฝ้าฟาง ภรรยาป่วยเป็นโรคกระดูกผิดรูป โรคหัวใจ ซ้ำหลานยังป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองเป็นแผลพุพองเต็มตัว โดยลูกสาวนำมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงตามลำพัง เจ้าตัวเผยรายได้ไม่พอกับการดูแลคนใสนครอบครัวที่ป่วยบางทีต้องไปขอข้าวก้นบาตรจากวัดมาให้คนในครอบครัวกิน ขณะเดียวกันไม่มีที่อยู่อาศัยต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะในหมู่บ้าน ถึงแม้ครอบครัวจะลำบากแล้วเจ้าตัวยังมีจิตอาสาช่วยงานสังคมในชุมชนหลายอย่าง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายเฉลิม สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้แจ้งกับ “เชียงใหม่นิวส์” ขอให้นำเสนอข่าวช่วยเหลือลุงบุญศรี โดยระบุว่า ลุงบุญศรี ที่ป่วยสารพัดโรค แต่ต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวถึง 3 คนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆที่ค่อนข้างเก่า ลุงบุญศรี ต้องทำงานทุกอย่างในบ้านไม่ว่าซักผ้า ทำกับข้าว ป้อนข้าวให้กับทุกคนก่อนที่จะใช้เวลาว่างไปเก็บของเก่าใกล้ๆกับหมู่บ้าน เพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูคนในครอบครัวป่วยโดยแรกคือยายบัวคำ ต๊ะเต๋ อายุ 86 ปี ตาบอดจากอุบัติเหตุนานกว่า 20 ปีนอกจากนี้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง และคอพอกด้วย
ส่วนคนที่สองคือนางเข็มทอง ทะระถา อายุ 60 ปี ภายาของลุงบุญศรี ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจและโรคกระดูกผิดรูปนาน 6 ปี ส่วนคนสุดท้ายได้แก่นายศราวุฒิ คำชมพู อายุ 20 ปีซึ่งเป็นหลานของลุงบุญศรีที่ลูกสาว ไปทำงานต่างจังหวัดและทิ้งไว้ให้ลุงบุญศรี กับป้าเข็มทอง เลี้ยงตั้งแต่เล็กพร้อมกับน้องสาวอีกคนที่เพิ่งเสียชีวิตจากโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา สำหรับนายศราวุฒิ หลายชายลุงบุญศรี เป็นคนในครอบครัวนี้ที่มีอาการป่วยหนักกว่าทุกคน เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองตั้งแต่อายุได้ 12 ขวบมีแผลทั่วร่างกายคล้ายกับโรคสะเก็ดเงิน ทำให้ต้องนอนกางมุ้งตลอดเวลาเพื่อป้องกันแมลงมาตอมซึ่งอาจจะทำให้ติดเชื้อได้
นายบุญศรี เขื่อนแก้ว เปิดเผยว่า อดีตตนเคยเป็นคนงานขับรถบรรทุก หลังจากนั้นประมาณ 7 ปีที่ผ่านมาสายตาเริ่มฝ้าฟางมองเห็นไม่ชัดจึงตัดสินใจกลับมาอยู่ที่บ้านทำงานรับจ้างตามหมู่บ้าน ทุกวันนี้เมื่อว่างจากการดูแลสมาชิกในครอบครัวก็จะออกเก็บขยะตามหมู่บ้านมารวมไว้ก่อนจะนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า
ส่วนสมาชิกในครอบครัวทั้ง 3 คนถึงแม้จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการแต่ก็ไม่เพียงพอในการดำรงชีพเนื่องจากรายจ่ายค่อนข้างมากโดยเฉพาะหลานชายมีต้องใช้จ่ายเยอะกว่าคนอื่นต้องกินอาหารอ่อนเนื่องจากมีอาการแพ้ ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งบางครั้งตนไปช่วยงานที่วัดหนองบัวพระเจ้าหลวง ก็ได้อาหารก้นบาตรจากพระในวัดที่แบ่งปันมาให้สมาชิกในครอบครัวกินเพื่อบรรเทาความหิว นายบุญศรี กล่าว
นายเฉลิม สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า วันนี้ครอบครัวของลุงบุญศรี รู้สึกดีใจมากที่ผู้ว่าฯเดินทางมาให้กำลังใจและจัดทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่สภากาชาดเข้ามาดูแลในวันที่ 27 ก.ย.นี้เพื่อเข้ามารักษาครอบครัวของลุงบุญศรี จากที่เทศบาลจัดเจ้าหน้าที่ศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลเชิงดอยเพื่อตรวจสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวมาดูแลก่อนหน้านั้นแล้ว อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางเทศบาลตำบลเชิงดอยได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวลุงบุญศรี ตลอดมาเช่นการจัดเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการตลอดจนค่าตอบแทน อสม.แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ทางเทศบาลจึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวลุงบุญศรีต่อไป
นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย กล่าวเพิ่มเติมว่าถึงแม้ครอบครัวลุงบุญศรี จะลำบากยากจนแต่ตัวของลุงบุญศรี กลับมีจิตอาสาเป็นทั้งอาสาสมัคร อสม.ในชุมชน เป็นกรรมการหมู่บ้านอาสาทำงานในหมู่บ้าน เป็นกรรมการวัดและเป็นอาสาปศุสัตว์ อีกด้วยซึ่งถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่งที่มีจิตอาสาทำงานช่วยเหลือชุมชนถึงแม้ครอบครัวของตนเองจะลำบาก
ผู้ที่มีจิตกุศลอยากให้การช่วยเหลือลุงบุญศรี ติดต่อได้ที่งานสวัสดิการสังคม สำนักงานเทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-104900 ต่อ 21 หรือติดต่อให้ให้ความช่วยเหลือกับลุงบุญศรีได้ที่ หมายเลข 084-8856276 หรือสามารถบริจาคเงินช่วยเหลือลุงบุญศรี ได้โดยตรงที่ ธนาคารออมสินสาขาดอยสะเก็ด หมายเลขบัญชี 020180527770 ชื่อบัญชีนายบุญศรี เขื่อนแก้ว.
ร่วมแสดงความคิดเห็น