(คลิป) ยุติปมดราม่า คลิป สี่ล้อแดงกร่าง ตร.นัดทั้ง 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ย สุดท้ายจบด้วยดี

s__3080208จากกรณีที่ทางผู้สื่อข่าวได้นำเสนอข่าวเหตุการณ์ที่คนขับสี่ล้อแดงมีเหตุทะเลาะวิวาทกับประชาชน และได้มีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยระหว่างเกิดเหตุมีคนสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้และได้ถูกนำไปเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียลโดยเพ็จเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Anti Red Taxi Chiang Mai ซึ่งคลิปดังกล่าวมีคนในโลกโซเชียลออกมาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 27 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ที่บริเวณตรงข้ามกับธนาคารกสิกรไทยสาขากาดสมเพชร จ.เชียงใหม่ และในเวลาต่อมาทางคนขับสี่ล้อแดงก็ได้เดินทางไปรายงานตัวกับทางขนส่งจังหวัดเชียงใหม่เพื่อยอมรับผิดเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้มีการลงโทษโดยการให้ทางเจ้าตัวเสียค่าปรับเบื้องต้น 1,000 บาท ในฐานความผิดขับรถโดยประมาท พร้อมทั้งได้สั่งพักใช้ใบอนุญาติขับขี่เป็นระยเวลา 15 วัน รวมทั้งได้สั่งให้ดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายกับคู่กรณีที่อยู่ในเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการอบรมเรื่องมารยาท เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

s__3080207

s__3080206สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 29 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการนัดหมายให้ทางคนขับสี่ล้อแดง พร้อมทั้งคู่กรณีที่ปรากฎภายในคลิปมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงและปรับความเข้าใจกัน พร้อมทั้งได้ดำเนินการตามกฎหมายกับทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยภายหลังการตรวจสอบ ทราบชื่อของคนขับสี่ล้อแดงที่ปรากฎในคลิปคนดังกล่าวคือ นายสาธิต ศรียาบ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 202/53 ม 10 ต. หนองหาร อ.สันทราย จ. เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ขับรถสี่ล้อแดงคันเกิดเหตุ หมายเลขทะเบียน 10-6452 เชียงใหม่  โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เล่าเหตุการณ์ กระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง สุดท้ายก็ได้ข้อยุติโดยทางคู่กรณีนั้นได้เรียกร้องให้ทาง นายสาธิต คนขับสี่ล้อแดง ทำการชดใช้ค่าเสียหายที่เป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และทั้ง 2 ฝ่ายต้องจ่ายค่าปรับในฐานความผิดก่อเหตุทะเลาะวิวาท จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันเดินทางกลับโดยไม่ได้ติดใจเอาความต่อกันแต่อย่างใด

โดยทาง นายสาธิต ศรียาบ คนขับรถสี่ล้อแดงที่ปรากฎภายในคลิปดังกล่าว ได้เล่าถึงข้อเท็จจริงให้กับทางผู้สื่อข่าวฟังว่า “ในวันที่เกิดเหตุเป็นช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น. โดยตนได้ขับรถโดยสารมาตามเส้นทางถนนสายมณีนพรัตน์ แล้วได้เลี้ยวขวามาทางแจ่งศรีภูมิ จนได้มาเจอกับคู่กรณี แล้วทางคู่กรณีก็ได้จอดรถลงมาต่อว่าเนื่องจากตนขับรถจี้ท้าย พร้อมทั้งได้มีการด่าด้วยคำหยาบคาย จึงทำให้ตนเกิดความโมโห ได้จอดรถแล้วต่อว่ากัน จากนั้นทางคู่กรณีที่เป็นผู้หญิงก็ได้มาชกต่อยตน แต่ระหว่างนั้นทางตนก็นั่งอยู่ภายในรถ ซึ่งเมื่อตนโดนชกจึงได้เปิดประตูรถลงไปแต่พอเห็นทางฝ่ายชายอุ้มลูกอยู่ ตนเห็นเด็กอารมณ์จึงเย็นลงแล้วได้กลับขึ้นมาบนรถอีกครั้งเพื่อตั้งใจว่าจะเลิกลา แต่ทางคู่กรณีที่เป็นผู้หญิงก็ไม่ยอมเลิกลา และเมื่อตนปิดประตูรถก็เอาตัวเข้ามาขวางพร้อมทั้งได้ชกต่อยตน แล้วทางผู้ชายก็มาสมทบโดยได้จูงเด็กมาแล้วชกตอยไปด้วยซึ่งเมื่อทางตนสะบัดหลุด และด้วยความโมโหที่เห็นในคลิปที่ตนได้ขับรถถ่อยตนก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำไปเพื่อที่จะข่มขู่ให้คู่กรณีเลิกลาและไม่ตามมา แต่พอถ่อยครั้งที่ 2 ได้ไปชนเข้ากับรถจักรยานยนต์อีกคัน แต่ทางตนก็ได้ดำเนินการโดยการพาผู้เสียหายไปซ่อมแซมและจ่ายค่าเสียหายให้เรียบร้อยแล้วในวันเดียวกับที่เกิดเหตุ”

“จากนั้นรุ่งเช้าของวันถัดมาทางขนส่งก็ได้ติดตามแจ้งให้ทางตนเดินทางเข้ารายงานตัวเพื่อว่ากล่าวตักเตือน พร้อมทั้งได้ทำการลงโทษด้วยการเสียค่าปรับ และปรับวินัยการขับขี่ รวมทั้งให้เข้าอบรม 2 ชั่วโมง และก็ได้มาติดต่อขอเข้ารายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อรับทราบข้อหาความผิด ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าจะดำเนินคดีในความผิดฐานทะเลาะวิวาทและข่มขู่ ขณะเดียวกันจากการที่ตนได้ถูกกล่าววหาว่าตอนเกิดเหตุได้มีการพกพาอาวุธ ใส่สนับมือไปนั้นตนยืนยันว่าได้ลงไปข่มขู่จริงแต่ไม่ได้มีการใส่สนับมือไปแต่อย่างใด ไม่งั้นตนคงไม่เจ็บนิ้วมือ และคงไม่ได้รับบาดเจ็บ และยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งใจที่จะไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทอย่างแน่นอน”

นายสาธิต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “อย่างไรก็ตามตนอยากฝากถึงประชาชนชาวเชียงใหม่ ซึ่งมีหลายฝ่ายทั้งคนที่ชื่นชอบ และคนที่ไม่ชื่นชอบ รถสี่ล้อแดง เมื่อมีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอยากให้มีการตรวจสอบข่าวให้ดี และไม่อยากให้รีบฟันธงว่ารถสี่ล้อแดงคนนี้ดี หรือรถแดงคนนี้ไม่ดี และหากคู่กรณี หรือทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีเจตนาที่จะมีเรื่องกันแล้วนั้นคงจะไม่มีเรื่องเกิดขึ้น ซึ่งทางตนก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ และอยากให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวเข้าใจว่าคนขับรถสี่ล้อแดงจะไม่อารมณ์รุนแรงขนาดนี้ถ้าหากพี่น้องร่วมทางเห็นใจ ซึ่งตนก็ไม่ได้ว่าคนขับรถแดงดีตลอด ซึ่งก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี และอยากให้เห็นใจคนทำมาหากิน และอยากฝากขอโทษไปยังพี่น้องชาวเชียงใหม่ รวมทั้งคู่กรณี ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากให้ยุติเพียงเท่านี้” นายสาธิต กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่ น.ส. สุริสา กลัดนิล คู่กรณี ก็ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับทางผู้สื่อข่าวฟังว่า “เริ่มต้นเหตุการณ์ในวันดังกล่าวตนได้ขับรถจักรยานยนต์มากับสามีและลูกสาว มาถึงบริเวณสามแยกแจ่งศรีภูมิ ซึ่งระหว่างที่ขับออกมานั้นตนก็ไม่ได้ขับเร็วเนื่องจากจะยูเทิร์นรถจึงต้องชิดขวา แต่ระหว่างนั้นทางรถสี่ล้อแดงได้ขับพุ่งออกมาจนเกือบจะชนใส่ จึงทำให้ตนเกิดความโมโหและตะโกนด่าออกไป จึงเกิดมีเรื่องมีราวกันขึ้นอย่างที่เห็นภายในคลิป และตอนนั้นเขามีสนับมือแต่ตอนให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่าไม่มี แต่ทางตนก็ไม่มีภาพหลักฐานที่จะมายืนยันจึงไม่สามารถเอาความได้ และมีปากเสียงกันอย่างที่เห็นในคลิป แต่คลิปที่ถ่ายได้นั้นเป็นเพียงช่วงท้ายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

“อย่างไรก็ตามหลังการเข้าเจรจากับคู่กรณี และให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยส่วนตัวแล้วตนอยากให้มีการปรับปรุง นิสัยในการขับขี่รถบริการ เนื่องจากไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนเองประสบปัญหา แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้มันเป็นเหตุต่อตัวเองโดยตรง ประกอบกับด้วยภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ รถสี่ล้อแดงเป็นรถโดยสารที่มีอยู่รอบๆ เมืองอยู่แล้วคือหากไม่ใส่ใจ ไม่มีการลงมาจัดการตรงจุดนี้ปัญหาก็จะเกิดขึ้นตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายคนเจอปัญหากันมาก และตนก็ไม่อยากเจออีกแล้ว แต่จากเรื่องที่เกิดขึ้นตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรเนื่องจากอีกฝ่ายก็ยินยอมจ่ายค่าเสียหาย และเนื่องจากทางเขาจะเรียกร้องให้ทางตนจ่ายค่าเสียหายให้กับเขาเช่นกัน แต่ทางตนก็ยืนยันว่าหากจะให้ทางตนจ่ายค่าเสียหายทางตนก็จะทำการฟ้องร้องเนื่องจากในเหตุการณ์นั้นทางฝ่ายคู่กรณีได้ขับรถถอยชน ซึ่งมีเจตนาที่จะทำร้ายเรา แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ช่วยพูดไกลเกลี่ยให้และตกลงกันได้ในที่สุด ส่วนข้อสรุปคือทั้งตนและคู่กรณีก็ได้ดำเนินการเสียค่าปรับทั้งคู่ และได้ให้อีกฝ่ายชดใช้ค่าโทรศัพท์ที่ได้เสียหายไป แต่ก็ยืนยันว่าจะไม่ขอเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้อีกแล้ว” น.ส. สุริสา กล่าวทิ้งท้าย

วีรศักดิ์ ปัญญาโชติ รายงาน

ร่วมแสดงความคิดเห็น