ไนท์ฯแจงปม เลิกซื้อผัก วิสาหกิจชุมชน ชี้ทะเบียนกลุ่มฯขาดต่ออายุ กฎหมายบังคับค้าขายไม่ได้

b-3-copy
ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

ไนท์ซาฟารี ออกโรงนำเอกสารหลักฐานชี้แจง กรณียกเลิกสั่งซื้ออาหารสัตว์จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบลฯ เพราะทะเบียนกลุ่มฯ หมดอายุ ยันไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เพราะดำเนินการไปตามกฎหมาย หลังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ บุกร้องเรียนจังหวัดช่วยแก้ปัญหา ครวญสมาชิก-เครือข่ายฯ 500 ครอบครัวได้รับผลกระทบหนักขาดรายได้เลี้ยงชีพ ล่าสุดทางเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่แจ้งว่าได้จดทะเบียนต่ออายุให้วิสาหกิจชุมชนแล้ว ส่วนทนายความผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ชะลอยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศาลแล้ว

จากกรณี นายดี จันทคลักษณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.แม่เหียะ ต.สุเทพ อ.เมือง และ ต.หนองควาย ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมสมาชิกวิสาหกิจชุมชน และกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ศาลากลางเชียงใหม่เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 59 โดยมีนายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้รับเรื่อง โดยทางวิสาหกิจฯ ได้ ขอให้ทาง จ.เชียงใหม่ หาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีที่สวนสัตว์กลางคืนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จะยกเลิกการสั่งซื้ออาหารสัตว์จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดังกล่าว เพราะส่งผลกระทบกับปัญหาปากท้องของชาวบ้านในพื้นที่กว่า 500 ครอบครัว นั้น
ความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 ก.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้นำเอกสารของสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่แจ้งเตือนไปยังวิสาหกิจชุมชน “เรื่องการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ “ปี 2555 ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน พร้อมทั้งชี้แจงเรื่องที่วิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ร้องเรียนต่อจังหวัดเพื่อขอให้แก้ปัญหา 500 ครอบครัวที่ต้องเดือดร้อนจากการยกเลิกการซื้ออาหารจากวิสาหกิจชุมชนฯ ดังกล่าว

สำหรับหนังสือที่ทางสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ ทำแจ้งไปยัง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ นั้น ได้แจ้งไปตั้งแต่ปี 2555 เมื่อวันที่ 31 มกราคม นั้น ระบุว่า “ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้รับเอกสารการขอต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตอาหารสัตว์ ปี 2555 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2555 นั้น ในการนี้ สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ ไม่สามารถดำเนินการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ปี 2555 ให้ได้เนื่องจากกลุ่มฯ ยังไม่ได้ดำเนินการหาสถานที่ทำการแห่งใหม่ รายละเอียดตาม หนังสือที่ ชม. 0109/016 ลงวันที่ 25 มกราคม 2555 ทั้งนี้ขอให้กลุ่มดำเนินการหาสถานที่ทำการแห่งใหม่ให้เรียบร้อย เพื่อจะได้ดำเนินการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนให้ในปีต่อไป ลงชื่อ นายนิคม ไชยวุฒิ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ปฏิบัติราชการแทนเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่”

ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้เปิดเผยว่า เมื่อปี 2553 ซึ่งตนได้มาดำรงตำแหน่ง เราก็ได้ทราบว่าทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ซื้ออาหารสัตว์จาก ซีพี มากกว่าวิสาหกิจชุมชน ในเวลานั้น ผมอยู่มาได้ 6 เดือนพอผ่านการประเมินเมื่อปลายปี 53 สิ่งที่ผมทำก็คือได้เชิญผู้แทนซีพี ฯ มาพบกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ว่าขอให้ดำเนินการในลักษณะปรองดอง ทางวิสาหกิจชุมชนเขามี MOU กับทางไนท์ซาฟารี อยากให้ทางวิสาหกิจฯ ได้ขายมากหน่อย ขอแบบนี้ได้ไหม โดยให้วิสาหกิจชุมชนฯ เลือกก่อนว่าอะไรที่เขาทำไม่ได้แล้ว ซีพี ค่อยทำ คืออาหารเม็ดกับไก่ ก็ต้องซีพีทำ วิสาหกิจชมุชนทำไม่ได้ สถานการณ์ในตอนนั้นก็กลับมาดีขึ้น กระทั่งปี 57 เราได้มีการเชิญผู้ตรวจสอบบัญชีมาตรวจสอบ โดยเมื่อปี 57 เขาก็บอกว่าเนื้อส้ตว์นั้นไม่น่าจะซื้อวิธีพิเศษจากวิสาหกิจชุมชน เพราะวิสาหกิจชุมชนก็ไปซื้อจากเจ้าอื่น และคำว่าเนื้อสัตว์นั้นชัดเจนว่า วิสาหกิจชุมชนไม่ได้เลี้ยง โดยไปซื้อมาจากโรงเชือด เราอยากให้มีการแข่งขันประมูล แต่หากเป็นพืชผักผลไม้เราไม่ว่า ทางไนท์ซาฟารีเองก็ได้เริ่มปี 57 ให้มีการยื่นซองประมูลสู้กันไป แต่ว่าพืชผักผลไม้ยังคงให้วิสาหกิจชุมชน ส่งขายเหมือนเดิม

“ต่อมาต้นปี 59 ทาง สตง. ก็ได้เตือนมายังเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ว่าใบทะเบียนของรัฐวิสาหกิจชุมชนนั้นหมดอายุ ควรจะแจ้งให้ทางวิสาหกิจชุมชนไปแจ้งจดให้เรียบร้อย เพราะวิธีที่ทางวิสาหกิจฯ ซื้อวิธีพิเศษ ทาง สตง.ไม่เห็นด้วย แต่หากจดทะเบียนเรียบร้อยจะมีการซื้อต่อไม่ว่า โดยทาง สตง. ให้เวลาถึง 1 ต.ค.59 ถ้าไม่เรียบร้อยและทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังซื้อผลผลิตจากทางวิสาหกิจชุมชนอยู่ ก็จะมีปัญหากับ สตง. ทางเราก็ได้เชิญกลุ่มแกนนำวิสาหกิจชุมชน มาพูดคุยเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว โดยก่อนหน้าก็มีการบอกกับทางแกนนำฯ มาก่อนด้วย โดยเตือนว่าทางกลุ่มควรจะไปยื่นจดทะเบียนให้เรียบร้อย และเราได้ให้คำแนะนำเหตุผลถึงการไปจดทะเบียนต่อ เพื่อเราจะได้ซื้อผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจฯ ได้ต่อไปเวลา 2 เดือนน่าจะทัน แต่ปรากฏว่า วันที่ 22 ก.ย. 59 ทางวิสาหกิจฯ กลับมายืนหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมว่า เราจะยกเลิกเขาโดยไม่ถูกต้อง ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี” กล่าว

ดร.ศราวุฒิ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทางวิสาหกิจฯ ต้องทำให้ถูกคือไปจดทะเบียน แต่กลับไม่ยอมไปจด และสาเหตุที่ไม่ยอมไปจดทะเบียนเพราะว่าที่ดินที่่วิสาหกิจชุมชนอยู่นั้น เป็นที่พิพาท ความเดิมวิสาหกิจชุมชนพิพาทกับกรมส่งเสริมการเกษตร ที่เขามีข้อพิพาทกับกรมส่งเสริมการเกษตรนั้้น เพราะที่แห่งนั้นเป็นที่สาธารณะ ต้องยื่นขอใช้ประโยชน์จากกระทรวงมหาดไทย ทางรองผู้ว่าเชียงใหม่ เองยังบอกว่าที่ใช้กันอยู่คือวิสาหกิจฯ และกรมส่งเสริมการเกษตร นั้นผิดทั้งคู่ เพราะที่ตรงนั้นเป็นที่สาธารณประโยชน์ให้ใช้สอยร่วมกัน ก็ให้มายื่นให้ถูกต้อง

ประเด็นที่เราเตือนทางวิสาหกิจฯ ที่ใบเส้นเขาขาดไม่ไปต่อให้ถูกต้อง เพราะทางกรมส่งเสริมการเกษตรได้บอกว่า ถ้าจะให้ทางกรมส่งเสริมการเกษตรต่อทะเบียนวิสาหกิจฯให้ ทางวิสาหกิจชุมชนต้องออกทางวิสาหกิจชุมชน ไม่ยอมออก และตอนหลัง ทางนายอำเภอหางดง มาแจ้งข้อมูลให้ฟังว่าที่ดินดังกล่าวมีทั้งหมด 7 ไร่ ไร่ละ 20 ล้าน รวมเป็นเงิน 140 ล้าน ฉะน้้นปัญหาต่าง ๆ ไม่ได้อยู่ที่ไนท์ซาฟารี แต่อยู่ที่ทางวิสาหกิจโดยผู้บริหาร อยากได้ที่ดินแปลงนี้ก็ไม่ยอมย้ายออก จริง ๆ แล้วทางวิสาหกิจชุมชนและทางกรมฯ ก็ผิดทั้งคู่ ซึ่งก็ต้องไปทำเรื่องต่อกระทรวงมหาดไทยให้ถูกต้อง ฉะนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่ไนท์ซาฟารี เมื่อทางกรมฯ เขาบอกว่าพื้นที่ตรงนี้มันผิดเป็นที่ที่ทางกรมฯกับวิสาหกิจฯ พิพาท กันอยู่ กรมฯ จะจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนให้ต่อเมื่อ ทางวิสหากิจ ไปใช้ที่อยู่ตรงไหนก็ได้ เพราะทางวิสาหกิจชุมชนได้ระบุว่าเขามีครอบครัวถึง 500 ครอบครัว คือใช้บ้านคนไหนก็ได้กรมฯ ก็จดให้ได้ทั้งนั้น แต่ที่ไม่ยอมใช้เพราะไม่ยอมย้ายออก คือทางวิสาหกิจ น่าจะย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่แล้วกรมฯเขาคงจดให้
ทางไนท์ซาฟารีเองก็ได้บอกทางวิสาหกิจฯ ในวันที่ 30 ก.ย. ก็ขอให้ไปจดให้เรียบร้อย ทางวิสาหกิจก็ไปดำเนินการ ทางกรมฯ เองก็ไปดำเนินการช่วยจดให้ แต่ว่าเขาต้องย้ายออก แต่ว่าที่ผ่านมาไม่เกี่ยวกับไนท์ซาฟารี เพราะเขาไม่ยอมย้ายออก เพราะมาทะเลาะกันกับเรื่องที่ดินแปลงนี้ และมาอ้างว่าทางไนท์ซาฟารี มีบริษัทนายทุนเข้ามาประมูล และยกเลิกวิสาหกิจเรื่องอาหารสัตว์ ทางไนท์ซาฟารีก็อยากบอกว่าได้ต่อสู้ชวยเหลือวิสาหกิจชุมชนมาตลอด อยากให้เข้าใจข้อเท็จจริงตามนี้

ดร.ศราวุฒิ ชี้แจงต่อไปว่า ส่วนที่ทางวิสาหกิจฯ มาอ้างว่าได้มีการเซ็น MOU กับไนท์ตั้งแต่แรก หากไม่เซ็นต์ MOU ทางไนท์ซาฟารีเองก็สร้างไม่ได้ในตอนแรกนั้น MOU นั้นเป็นการบันทึกความเข้าใจ แต่ MOU นั้นไม่ได้สูงกว่ากฏหมาย ถึงแม้จะเซ็นต์บันทีกความเข้าใจกัน เวลาซื้อขายอะไรก็ต้องบันทีกตามระเบียบของทางราชการ ในที่ประชุมเองทาง รอง ผวจ.เชียงใหม่ โดยนายมงคล สุกใส ได้ตัดสินใจว่าวิสาหกิจชุมชนต้องไปจดทะเบียนให้เรียบร้อย ก็ต้องย้ายออกมาก่อน ส่วนคดีพิพาท ก็พิพาท กันไป ตอนจบหากศาลตัดสินให้วิสาหกิจชุมชนเป็นฝ่ายชนะ ก็ค่อยกลับมาใช้ใหม่ แต่ตอนนี้ต้องย้ายออกไปก่อน เพราะหากไม่ย้ายออกก็จดทะเบียนไม่ได้ คือที่ไม่ถูกต้อง กรมฯ ก็จดให้ไม่ได้ ฉะนั้นคือทางวิสาหกิจ ไปเอาบ้านไหนก็ได้คือครอบครัวที่เป็นสมาชิกของวิสาหกิจ ใน 500 ครอบครัวมาจด เขาก็จดให้อยู่แล้ว คือต้องทำตามกฏหมาย จะมาอ้าง MOU ไม่ได้เพราะว่า MOU ไม่ได้มีผลเหนือกฏหมาย ทุกอย่างก็ต้องซื้อตามระเบียบว่ากันไปตามกฏหมาย ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไม่ได้กลั้่นแกล้งแต่อย่างใด ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน กล่าว

ข่าวคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกันทางด้านนายดี จันทคลักษณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ต.แม่เหียะ ต.สุเทพ อ.เมือง และ ต.หนองควาย และ ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เลขที่ 118/3 หมู่ 5 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ล่าสุดทางเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่แจ้งมาว่า ได้จดทะเบียนต่ออายุให้กับวิสาหกิจชุมชนแล้ว

กรณีเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ (เกษตรที่สูง) จี้ให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล จะต่ออายุจดทะเบียนวิสาหกิจให้ ขณะที่นายดี จันทคลักษณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ยืนยันอยู่ต่อ และบอกว่า วิสาหกิจชุมชนตั้งมา 10 ปีไม่ผิด แต่วันนี้บอกว่าผิดต้องออกจากพื้นที่ ล่าสุดวิสาหกิจฯ ฟ้องศาลกรณีหน่วยงานรับผิดชอบยื้อไม่ต่ออายุวิสาหกิจให้แล้ว ฝ่ายกฏหมายเดินหน้าฟ้องเกษตรอำเภอเมือง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เช้าวันเดียวกันนายเศวต เวียนทอง ทนายความผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล กำลังเตรียมเอกสารการก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนและเอกสารสำคัญอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการที่ขออนุญาตต่ออายุวิสาหกิจชุมชนที่มีปัญหาล่าสุดนี้ไม่สามารถต่ออายุได้ยืนต่อศาลปกครองทั้งหมด

นายเศวต ผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ได้กล่าวว่า การรับหมายหรือเอกสารสำคัญของศาลที่ส่งถึงตน แล้วมีผู้นำเอกสารที่ศาลส่งมาให้ตน นำเข้าไปในที่ประชุมร่วมกับทางจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น มีนายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และตัวแทนกรมสงเสริมการเกษตรและผู้บริหารไนท์ซาฟารี ก่อนที่ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและสมาชิกจะเข้าพบและยื่นหนังสื่อถึงนายกรัฐมนตรีผ่านทางจังหวัดกรณีที่เกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ไม่ต่ออายุให้วิสาหกิจชุมชน และร้องเรียนผู้บริหารไนท์ซาฟารีนั้น

“คณะกรรมการวิสาหกิจชุมชนทราบปัญหานี้แล้ว มีผู้นำเอกสารของศาลเสนอจังหวัดทำให้ทางจังหวัดเชียงใหม่คือนายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริง ซึ่งตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดี กำลังได้รับเอกสารของศาลเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาเห็นว่า เดิมทีพื้นที่ที่ตั้งวิสาหกิจชุมชน ทางกรมส่งเสริมการเกษตรได้ใช้พื้นที่ถือสิทธิ์ครอบครอง ต่อมาชาวบ้านได้ฟ้องขอคืนเพราะชาวบ้านเห็นว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์ จากอดีตเป็นที่เลี้ยงสัตว์สันพระนอนมาก่อน เมื่อฟ้องศาลแล้ว ศาลปกครองตัดสินช่วงปี พ.ศ.2554 ให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณประโยชน์ ศาลบังคับให้กรมส่งเสริมการเกษตรยืนขอเผิกถอนความเป็นที่ดินสาธารณะภายใน 365 วัน ถือว่าคดีสิ้นสุด แต่กรมส่งเสริมฯไม่ดำเนินการตามบังคับของศาลปกครอง ไม่สามารถเผิกถอนที่ดินดังกล่าวได้ และกรมส่งเสริมการเกษตร และวิสาหกิจชุมชนยังใช้พื้นที่ดินดังกล่าวร่วมกันมาโดยตลอด”

นายเศวต กล่าวอีกว่า กรณีที่ดิน เลขที่ 118/3 หมู่ 5 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กรมส่งเสริมการเกษตรและวิสาหกิจชุมชนก็ยังใช้พื้นที่ดินดังกล่าว เมื่อชาวบ้านฟ้องร้องคดีสินสุด นายอำเภอเมือง ผู้ดูแลรับผิดชอบ ต้องแจ้งให้ผู้ถูกฟ้องคือกรมส่งเสริมการเกษตรให้ออกจากพื้นที่ ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่กรมส่งเสริมสร้างขึ้นมานั้นให้ตกเป็นทรัพย์สินของกระทรวงการคลัง ให้กรมธนารักษ์ดูแล หากผู้ใดจะใช้ต้องขออนุญาตกรมธนารักษ์

“ปัจจุบันที่ดินแปลงดังกล่าวจึงไม่ใช่สถานที่ราชการ วิสาหกิจชุมชนจึงไม่ใช่คู่ความที่อยู่ในบังคับของศาลปกครอง ผู้ที่เป็นคู่ความและถูกบังคับคดีคือกรมส่งเสริมการเกษตรที่ต้องออกไป และชาวบ้านจะขอใช้พื้นที่กับกรมธนารักษ์ต่อไป และเรื่องนี้ทางชาวบ้านเสนอให้นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ออกหนังสือถึงกรมส่งเสริมการเกษตรให้ออกจากพื้นที่ไปก่อนหน้านั้นแล้ว แต่กรมส่งเสริมขอเวลาอีก 30 วัน เพื่อหารือกับผู้เกี่ยวข้องก่อน จนเวลาเกิน 30 วันไปนานแล้ว กรมส่งเสริมก็ยังไม่ออกจากพื้นที่แต่อย่างใด” นั้นคือปัญหาของที่ดินภายในกรมส่งเสริมการเกษตรหรือที่ตั้งของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ (เกษตรที่สูง)ปัจจุบัน แล้วกรมส่งเสริมจะมาให้วิสาหกิจชุมชนออกจากพื้นที่ถือว่าไม่ถูกต้อง

“แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีการจดทะเบียนต่ออ่ายุให้กับวิสาหกิจชุมชนแล้ว ก็จะชลอเรื่องไว้ก่อนยังไม่ดำเนินการใดๆกับทางเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ และตนจะเข้าไปรับเอกสารการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบลที่เกษตรอำเภอเมืองก่อน แล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป” นายเศวต เวียนทอง ทยานความผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล

รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 4 ตำบล ร้องเรียนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือ 1.ขอให้ตรวจสอบประเด็นกรมส่งเสริมการเกษตรไม่ต่ออายุให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล จากที่กรมส่งเสริมการเกษตรครอบครองที่ดินสาธารณประโยชน์โดยผิดกฏหมายมานาน 40 ปี, 2.ขอให้ตรวจสอบบัญชีสัตว์ทั้งที่มีชีวิตและเสียชีวิตของสัตว์ภายในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพราะจะเกี่ยวโยงกับการซื้อและขายแลกเปลี่ยนสัตว์หรือไม่, 3.ขอให้ปลดหรือย้าย ผอ.ฝ่ายจัดการสัตว์ สัตวแพทย์ที่ไม่สามารถดูแลปกป้องรักษาชีวิตสัตว์ และขอให้ปลอดผู้บริหารที่มีปัญหากับชุมชน และผู้บริหารที่ถูกตรวจสอบจาก สตง.นับสิบกว่าเรื่องด้วย

ข้อ 4.ขอให้คืนอาหารสัตว์ทุกชนิดให้กับชุมชนที่อาศัยอยู่รอบไนท์ซาฟารี ในนามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ตามที่ทำตามแผนแม่บทในการสร้างเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นพันธะสัญญาเดิมที่ให้ไว้กับชุมชนตามร่าง พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548 ที่รัฐบาลสนับสนุนให้เข้มแข็งยืนได้ด้วยตัวเอง ผลประกอบการรายได้ตกถึงมือเกษตรกรอย่างทั่วถึง และเป็นธรรมไม่ต้องการให้ตกกับนายทุนหรือเอกชนบางรายหรือเจ้าหน้าที่บางคนที่มีส่วนร่วมเพียงรายเดียว จึงแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบปัญหาดังกล่าว

ซึ่งเรื่องนี้ร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 22 ก.ย.2559 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ได้ยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่รับเรื่อง และให้วิสาหกิจชุมชนแจ้งย้ายที่ทำการใช้เลขที่บ้านแห่งใหม่แล้วให้เกษตรอำเภอจดทะเบียนให้ใหม่.

ร่วมแสดงความคิดเห็น