โอละพ่อคดี 2 เด็กม้ง ฝรั่งสารภาพเจอนาฬิกาแล้ว แหม่มสาวแสบปิดเฟสฯเผ่น ด.ญ.เศร้าถูกตราบาปขี้ขโมย

1-4คืบหน้าประเด็นดราม่า 2 เด็กหญิงม้งถูกกล่าวหาขโมยนาฬิกาแหม่มสาวนักท่องเที่ยว ล่าสุดตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนดอยสุเทพ ที่เกิดเหตุอย่างละเอียด แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยของหญิงฝรั่งในภาพ ด้านผู้ใหญ่บ้านดอยปุย เผยเบาะแสล่าสุด แฟนหนุ่มของแหม่มสาว ออกมาเผยพบนาฬิกาที่หายไปแล้ว ขณะที่แหม่มสาวแสบลบข้อความและปิดเฟสบุ๊คหนีความผิด จนไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของเด็กทั้ง 2 คนได้ วอนหน่วยงานและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับเด็กด้วย เพราะขณะนี้ 2 เด็กม้งสภาพจิตใจย่ำแย่มาก
จากกรณีที่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วสื่อออนไลน์ในประเทศอังกฤษมีการนำเสนอข่าวว่านักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายลงในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่ามาเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วถ่ายภาพกับเด็กผู้หญิงชาวเขาเผ่าม้งสองคนที่แต่งกายชุดประจำเผ่า ต่อมาปรากฏว่านาฬิกาข้อมือได้หายไป โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของเด็กหญิงทั้งสองคนที่ขโมยไป ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่

โดยเมื่อวันที่ 4 ต.ค.59 นายเมธาพันธ์ เพื่องฟูกิจการ ผู้ใหญ่บ้านดอยปุย หมู่ที่ 11 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรณีที่นักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติกล่าวหาว่าเด็กหญิงทั้งสองคนซึ่งเป็นลูกสาวของราษฎรบ้านดอยปุยเป็นผู้ขโมยนาฬิกาไปนั้น ผ่านมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตามจนถึงเวลานี้ยังไมได้รับการประสานงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัดเชียงใหม่,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) หรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง โดยล่าสุดสอบถามไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบแต่เพียงว่ากำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ยังไม่พบส่วนที่บันทึกภาพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนดังกล่าวไว้ได้ ทำให้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร และจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่มีผู้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ด้วย

สำหรับเด็กหญิงทั้งสองคนที่เป็นพี่น้องกัน อายุ 10 ปี และ 7 ปี นั้น ผู้ใหญ่บ้านดอยปุย บอกว่า ขณะนี้ไปโรงเรียนและเล่าเรียนหนังสือได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าจากข่าวที่มีการนำเสนอไปทำให้เด็กหญิงทั้งสองคน รวมทั้งพ่อแม่และครอบครัวของเด็กเสียขวัญอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตราบใดที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถหาหลักฐานข้อเท็จจริงมายืนยันความบริสุทธิ์ให้กับเด็กทั้งสองคนนี้ได้ และที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดๆ เข้ามาเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กทั้งสองคนและครอบครัวเลย ทั้งนี้หากเป็นไปได้ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรวบรวมหลักฐานให้ได้โดยเร็ว หรือหากเป็นไปได้ต้องการให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เป็นผู้กล่าวหาออกมาแสดงตัวและนำข้อมูลหลักฐานมายืนยันหรือหักล้างกัน

นอกจากนี้ นายเมธาพันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นได้มีการประสานไปเครือข่ายชาวม้งในต่างประเทศที่มีการกระจายตั้งรกรากอยู่หลายประเทศทั่วโลก ทั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น ล่าสุดได้รับแจ้งจากเครือข่ายชาวม้งที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ได้ทำการติดต่อไปยังสำนักข่าวในประเทศอังกฤษที่นำเสนอข่าวกรณีนี้เพื่อสอบถามรายละเอียดกรณีข่าวดังกล่าว ซึ่งได้รับคำตอบว่า ขณะนี้เพื่อนชายของนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษคนดังกล่าวได้หานาฬิกาที่หายไปพบแล้ว แต่ไม่ได้มีการนำเสนอข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่วนนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษก็ลบโพสต์ที่เผยแพร่ไว้ในโซเชียลมีเดียออกไปแล้ว

ทั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านดอยปุย ระบุว่า ในช่วงนี้กำลังอยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบข้อมูลตามที่เครือข่ายชาวม้งที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาแจ้งข้อมูลข่าวสารมาให้ว่าเป็นความจริงตามนั้นหรือไม่ อย่างไร โดยเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงควบคู่ไปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดเรื่องส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กหญิงชาวม้งทั้งสองคนเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของชาวเขาเผ่าม้งทั้งหมดด้วย โดยที่ไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องใดๆ นอกจากทำความจริงให้ปรากฏเท่านั้น

ขณะที่ทางด้าน พันตำรวจโทธาดา ฐิตะปัญญา สารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีที่เด็กหญิงสองพี่น้องชาวม้งดอยปุย ถูกนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษกล่าวหาว่าขโมยนาฬิกาข้อมือไประหว่างถ่ายรูปที่ระลึกกับเด็กหญิงทั้งสองคนที่สวมใส่ชุดประจำเผ่าบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามอย่างเต็มที่และต่อเนื่องในการสืบหาข้อมูลเพื่อระบุตัวตนว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเป็นใคร รวมทั้งพยายามหาทางติดต่อกับนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวผ่านทุกช่องทางที่เป็นไปได้

อย่างไรก็ตามจนถึงเวลานี้ยังไม่มีข้อมูลของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวแม้แต่น้อย เพราะไม่ทราบวันเวลาแน่ชัดที่นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว และแม้แต่เฟซบุ๊คส่วนตัวของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวก็มีการปิดไปแล้ว หลังจากที่มีข่าวดังกล่าวนำเสนอออกไปและมีกระแสสังคมจำนวนมากไม่เชื่อว่าเด็กหญิงทั้งสองคนจะเป็นผู้ที่ขโมยนาฬิกาไปจริง
ส่วนการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภาพอย่างละเอียดทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่พบภาพนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว รวมทั้งติดปัญหาอุปสรรคตรงที่ระบบฐานข้อมูลของกล้องวงจรปิดทั้งหมดทั่วบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพ สามารถจัดเก็บข้อมูลภาพย้อนหลังได้เพียง 15 วันเท่านั้น ทำให้จนถึงเวลานี้ยังไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันหรือประกอบการกล่าวหาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้

ทั้งนี้สารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ ระบุว่า เบื้องต้นจนถึงเวลานี้ในส่วนของเด็กหญิงสองพี่น้องชาวม้งดอยปุยที่ถูกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกล่าวยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยหากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับความเสียหายจากการนำเสนอข่าวของสื่อต่างประเทศ ก็สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งยอมรับว่าสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดในเวลานี้ก็คือสภาพจิตใจของเด็กหญิงทั้งสองคน

นอกจากนี้พันตำรวจโทธาดา บอกว่า ขณะนี้มีการส่งต่อข้อมูลที่อ้างแหล่งที่มีจากต่างประเทศอ้างว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กล่าวหาเด็กหญิงชาวม้งหานาฬิกาพบแล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อถือข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะเป็นข้อมูลที่ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน ทั้งนี้โดยความเห็นส่วนตัวต่อกรณีที่เกิดขึ้นนั้น มองว่าคำกล่าวหาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างต่ำ เพราะหากเป็นความจริงโดยปกติน่าจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น