รวบโรงแรม “ตัน อิชิตัน” ไร้ใบอนุญาตประกอบการ

79

วันที่ 7 ต.ค.59 นายศรัณยู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ นายศิริพงษ์ นำภา ปลัดอาวุโสฯ นายปรีชา ศิรินาม ปลัดอำเภอฯ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ภูพิงค์ นำโดย พ.ต.ท.ธาดา ฐิตะปัญญา สวป.สภ.ภูพิงค์ ร.ต.อ.สุนธยา ปรารมภ์ รอง สวป. เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย รศ.ที่ 4 พัน.พัฒนา 3 กกล.รส.จังหวัดเชียงใหม่ และกำลังเจ้าหน้าที่ สมาชิก อส. จากกองร้อย อส.อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ 2 สนธิกำลังกว่า 15 นาย เข้าตรวจสอบโรงแรมอิสตินตัน เลขที่ 165 ถนนห้วยแก้ว ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเมญ่า ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากสืบทราบว่าโรงแรมดังกล่าวยังไม่มีดำเนินการขออนุญาตประกอบการให้ถูกต้องตามกฎหมาย

จากการเข้าตรวจสอบในส่วนของโรงแรมมี น.ส.จุฬาลักษณ์ มีอินทร์ถา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/126 หมู่ที่ 15 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม แสดงตนออกพบกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบเอกสารการจดทะเบียน และเอกสารการขอประกอบการธุรกิจโรงแรม ซึ่งปรากฏว่าทางผู้จัดการโรงแรมไม่สามารถนำเอกสารเกี่ยวกับการอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงแรมที่ถูกต้องมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอเอกสารเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจเท่าที่มีอยู่นำมาแสดง โดยผู้จัดการนำเพียงใบเสร็จรับภาษีโรงเรือนและที่ดิน ซึ่งเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินประเภท โรงแรม ให้แก่งานคลังแขวงศรีวิชัย เทศบาลนครเชียงใหม่ ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยใช้ชื่อผู้ประกอบการว่า บริษัท ตันบุญ จำกัด สาขาเชียงใหม่ สำเนาใบแสดงการจัดทะเบียนการค้า ชื่อ บริษัท ตันบุญ จำกัด ใบเสร็จรับเงินภาษีป้าย ซึ่งจ่ายให้แก่เทศบาลนครเชียงใหม่ และสำเนาทะเบียนผู้เข้าพักโรงแรมอิสตินตัน เจ้าหน้าที่จึงไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

s__4915238

80

ด้าน นายศิริพงษ์ นำภา ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า ในการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้ทราบว่า โรงแรมอิสตินตัน ซึ่งเป็นของ ตัน ภาสกรนที หรือ เสี่ยตัน อิชิตัน ซึ่งการก่อสร้างแต่เดิมคาดว่าจะมีการขออนุญาตก่อสร้างเป็นลักษณะที่พักรวม ห้องชุด หรือคอนโดมิเนียม และได้มีการขออนุญาตแล้วก่อนปี 2555 ทางท้องถิ่นก็ได้มีการอนุญาตให้สร้างได้ แต่หลังจากปี 2555 กฎหมายเกี่ยวกับผังเมืองฉบับใหม่ในเรื่องการควบคุมอาคาร การใช้อาคาร และ กฎหมายเกี่ยวกับโรงแรม ออกมาบังคับใช้จึงได้มีการมาขอเปลี่ยนการใช้อาคารจากที่พักรวม ห้องชุด หรือคอนโดมิเนียม เป็นการใช้อาคารสำหรับประกอบการธุรกิจโรงแรม โดยจะนำเอาชั้นที่ 2 ถึงชั้นที่ 4 ประกอบการในลักษณะโรงแรม ส่วนชั้นที่ 5 ถึงชั้นที่ 7 จัดให้เป็นที่พักอาศัยแบบคอนโดมิเนียม หรือห้องชุด ประเด็นการประกอบการแบบนี้โดยกฎหมายผังเมืองและกฎหมายควบคุมอาคารไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ เนื่องจากว่ามีขนาดอาคารไม่ตรงตามที่กำหนด และผิดแบบ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้พิจารณาและไม่อนุมัติในการออกใบอนุญาต แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังให้บริการเป็นโรงแรมอยู่ จึงถือว่ากระทำความผิด ในวันนี้จึงสนธิกำลังทำการตรวจสอบ พบว่าผู้ประกอบการไม่มีใบอนุญาตการประกอบกิจการโรงแรมจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำผิดในฐานความผิด “ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2557 มาตรา 15 จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม พร้อมเอกสารที่ตรวจยึดไว้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ฯ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น