วันที่ 13 ต.ค.59 ผู้สือข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าวัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร ได้มีการให้บริการรถชมเมือง ซึ่งใช้ชื่อว่า “รถเขียวชมเมือง” ที่ให้บริการกับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจ เดินทางชมสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ ควบคู่ไปกับการชมต้นไม้และธรรมชาติภายในตัวเมือง ซึ่งต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบก็พบว่าได้มีการให้บริการรถดังกล่าวจริง โดยเปิดให้ผู้สนใจทุกเพศทุกวัย รวมทั้งนักท่องเที่ยวได้ใช้บริการ ซึ่งรถคันดังกล่าวจะวิ่งวนรอบตัวเมืองโดย เน้นเส้นทาง 4 แจ่งเมือง 5 ประตู เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ศึกษาเส้นทางและสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ โดยมีผู้บรรยายคอยบอกเล่าให้ความรู้ และใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้น ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยทางผู้สื่อข่าวพบว่าจากการดำเนินการให้บริการดังกล่าว มีผู้สนใจมาใช้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายชลธี ตะพัง ผู้ประสานงานโครงการเขียวชมเมือง ทราบว่า รถเขียวชมเมืองนั้นได้มีการย้ายจุดให้บริการมาอยู่ที่บริเวณด้านหน้าวัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ต.ค.59 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ได้รู้จักประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ ผ่านเรื่องของระบบนิเวศน์ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งหมายถึงต้นไม้และพื้นที่สีเขียว เพราะต้นไม้กับการสร้างเมืองนั้นมีความผูกพันกัน เช่น ต้นไม้หมายเมือง ต้นไม้หมายทาง และต้นไม้หมายถิ่น โดยรถเขียวชมเมืองนั้นจะเน้นวิ่งในเส้นทาง 4 แจ่งเมือง 5 ประตู ซึ่งแต่ละแจ่งเมืองนั้นก็จะมีต้นไม้แต่ละจุดที่มีประวัติอยู่
นอกจากนี้แล้วเมื่อมีการดำเนินโครงการหรือทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง จะพบว่าแต่ละชุมชนนั้นจะมีต้นไม้ที่สำคัญอายุเก่าแก่อยู่คู่บ้านคู่เมืองที่มีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี ขณะเดียวกันโครงการนี้เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของหลายๆ ฝ่าย โดยไม่ได้มีการขอทุน แต่เกิดจากความเห็นพ้องต้องกันในการที่ต้องการ จะดูแลสิ่งแวดล้อมหรือเมืองเชียงใหม่ ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการดูแลพื้นที่สีเขียวที่มีอยู่แล้ว
นายชลธี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะเดียวกัน เมื่อช่วง 10 ปี ก่อน จ.เชียงใหม่ เริ่มเกิดปัญหาเรื่องของหมอกควัน ประกอบกับปัญหาที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทางกลุ่มจึงได้มีการพูดคุยและขอความร่วมมือกับทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ได้มีการจัดประกวดต้นไม้ใหญ่ในชุมชน ในพื้นที่เขตคูเมือง ซึ่งพบว่ามีต้นไม้อายุเกือบ 100 ปี และอายุมากกว่า 100 ปี อยู่เป็นจำนวนมาก และได้มีการจัดทำหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง จากนั้นเป็นต้นมาก็มีการสำรวจเพิ่มขึ้น และมีการจัดงานที่พาผู้สนใจไปชมต้นไม้ที่มีอายุเก่าแก่ และอยู่คู่กับสถานที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งปัจจุบัน นอกจากทางเทศบาลฯ แล้วยังมีหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งกลุ่มจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือดูแล หรือที่เรียกว่าหมอต้นไม้คอยดูแลต้นไม้เหล่านี้ ซึ่งหากมีผู้สนใจอยากจะศึกษาประวัติความเป็นมาของต้นไม้เก่าแก่เหล่านี้ ก็อยากเชิญชวนให้ลองมานั่งรถเขียวชมเมืองดู
ส่วนการนั่งรถเขียวชมเมืองนั้น มีการแบ่งเวลาโดยรอบทั่วไปจะมีรอบแรก ตั้งแต่ 09.30 น. รอบสอง 11.00 น. รอบ 3 เวลา 13.30 น. ส่วนรอบเย็นจะมีเวลา 18.00 น. ซึ่งรอบเย็นนั้นจะไม่แวะวัดเชียงมั่น โดยจะเน้นสถานที่สำคัญ 4 แจ่ง 5 ประตูเมือง และทางเทศบาลฯ ก็จะมีการเปิดไฟซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่น่าท่องเที่ยวและเก็บภาพ แต่ในช่วงรอบเช้าและกลางวัน 3 รอบนั้น จะมีการแวะชมวัดเชียงมั่นด้วย เพื่อที่จะบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์การสร้างเมือง เนื่องจากวัดเชียงมั่นเป็นวัดแรกที่อยู่คู่กับเชียงใหม่ในช่วงของพญามังรายที่เริ่มมีการสร้างเมือง
ซึ่งรายได้ภายหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็จะนำมาดูแลอาสาสมัครที่มาช่วยขับรถ และเป็นผู้บรรยายที่ทำงานกับชุมชนที่มีความรู้เรื่องต้นไม้ที่มาช่วยกันดำเนินกิจกรรมดังกล่าว นอกจากนี้บางส่วนก็จะนำกลับมาดูแลสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องของต้นไม้โดยอัตราค่าบริการหากเป็นรอบทั่วไปของผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 50 บาท ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติแต่หากเป็นเด็กหรือนักศึกษาก็จะเก็บแค่ 30 บาท โดยรถให้บริการเขียวชมเมือง จะมีอยู่จำนวน 2 คัน ผู้สนใจสามา รถมานั่งรถชมได้โดยมีระยะเวลาในการนั่งประมาณ 1 ชั่วโมง
ร่วมแสดงความคิดเห็น