ชวนนักศึกษาโภชนาการฯประกวด “King Rice Oil Group Award”

b-6-jpg

“คิง” ชวนนักศึกษาโภชนาการ-วิทยาศาสตร์อาหาร-คหกรรมฯ ร่วมโครงการ“King Rice Oil Group Award”ต่อยอดคุณค่าผลิต ภัณฑ์จากรำข้าวไทยชิงทุนวิจัย 4 แสนบาท
นายประวิทย์ สันติวัฒนา กรรมการบริหารกลุ่มนํ้ามันรำข้าวคิงเปิดตัวโครงการ“การประกวดโครงร่างงานวิจัยกลุ่มนํ้ามันรำข้าวคิง (King Rice Oil Group Award)”โดยกล่าวถึง โครงการนี้ว่า“กลุ่มนํ้ามันรำข้าวคิงมีความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับรำข้าวมาโดยตลอด จนได้รับรางวัลจากเวทีการประกวดรางวัลนวัตกรรมระดับชาติ ที่จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์มากมาย อาทินํ้ามันรำข้าวคิงชนิดโอรีซานอลสูง ชนะเลิศนวัตกรรมแห่งชาติด้านเศรษฐกิจปี 2549 ชอร์ตเทนนิ่งนํ้ามันรำข้าวคิงชนะเลิศนวัตกรรมข้าวไทยปี 2553 ครีมเทียมนํ้ามันรำข้าวคิงได้รับรางวัลรองชนะเลิศนวัตกรรมข้าวไทย ปี 2554 และล่าสุดแป้งรำข้าวคิงได้รับรางวัลรองชนะเลิศนวัตกรรมข้าวไทยปี 2556
จากตรงนี้จะเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างมากเนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตสินค้าให้มีคุณประโยชน์ ทั้งยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมขององค์กรอยู่เสมอ นอกจากนั้น เรายังมองว่าในอนาคตประเทศของเราควรมีงานวิจัยที่สามารถต่อยอดสิ่งดีๆของไทยให้มีคุณค่าและมูลค่ามากยิ่งขึ้นกลุ่มนํ้ามันรำข้าวคิง จึงถือโอกาสในวาระดำเนินธุรกิจครบรอบ 40 ปี จัดการประกวดครั้งนี้ เพื่อให้นักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอก ในสาขาวิชาโภชนาการวิทยาศาสตร์อาหาร คหกรรมศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานด้านการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์จากรำข้าวไทย โดยเราหวังว่าเวทีนี้จะช่วยสนับสนุนให้เกิดไอเดียดีๆ จากคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในวงการด้านอาหารและโภชนาการของประเทศต่อไป”
นายประวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การประกวดKing Rice Oil Group Award ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 ท่าน จาก 5 มหาวิทยาลัย ได้แก่เกษตรศาสตร์ จุฬาฯ มหิดล ศรีนครินทรวิโรฒและสวนดุสิต โดยมีเงินรางวัลเป็นทุนวิจัยรวม 4 แสนบาท แบ่งเป็น ระดับปริญญาโทและเอก 3 รางวัล จำนวนทุนวิจัยรวม 3 แสนบาทและระดับปริญญาตรี 5 รางวัลจำนวนทุนวิจัยรวม1 แสนบาท สมัครได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ตุลาคม 2559 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็ปไซต์ www.kingriceoilgroupaward.com”

ร่วมแสดงความคิดเห็น