สาธารณสุขเตรียมความพร้อม 72 ชั่วโมงแรก ดูแลสุขภาพจิตประชาชน หลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว
นพ.ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า จากแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังถึงการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เหล่าข้าราชการ ลูกจ้าง บุคลากรสาธารณสุขใน จ.พิษณุโลก ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย และร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง สนองพระราชปณิธานของพระองค์ท่านสืบไป
ส่วนห้วงเวลาแห่งความโศกเศร้านี้ สำนักงานสาธารณสุข จ.พิษณุโลกได้ดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะด้านสุขภาพจิต เพื่อประสานงานความช่วยเหลือประชาชนกับหน่วยงานสาธารณสุขทุกแห่งในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 72 ชั่วโมงแรก กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังสุขภาพจิตเป็นพิเศษ คือ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่หรือบุคลากรที่ทำงานโครงการพระราชดำริในพื้นที่ และผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิต ซึ่งอาการทางจิตตั้งแต่การระบายแสดงออก โกรธหรือการปฏิเสธความจริง สุดท้ายคือการยอมรับความจริง โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นเครือข่ายสำคัญในชุมชน ต้องมีความเข้มแข็ง ดูแลประชาชนในพื้นที่ด้วยหลักปฎิบัติ 3 ขั้นตอน
คือ รับรู้จากการสังเกต รับฟังความทุกข์ใจ คับข้องใจ ไม่ควรปิดกั้นการแสดงออก อยากร้องไห้ ให้ร้อง และการแนะนำให้ผ่อนคลาย หากิจกรรมอื่นๆไม่ย้ำคิด ย้ำทำ หรือแนะนำให้ใช้บริการสาธารณสุขที่เหมาะสม เมื่อสังเกตว่าบุคคลที่ดูแลอยู่มีอาการทางจิต เช่น หูแว่ว ความคิดอยากฆ่าตัวตาย พร้อมกันนี้ต้องพยายามลดบทบาทของ “ตัวชี้นำทางลบ” หรือตัวกระตุ้น เช่น พวกที่กรีดร้องโวยวายเสียงดังเกิน” ให้แยกไปร้องในที่ๆเหมาะสม , พวกที่เกิดอาการชักเกร็ง ให้แยกออกไปจากกลุ่มชนแล้วรีบพามาพบจิตแพทย์ เพื่อป้องกันการเกิดอุปทานหมู่ หากต้องการคำแนะนำสามารถโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323
นอกจากนี้ขอเชิญชวนให้ประชาชนพยายามชวนคนรอบข้าง พูดคุยทางด้านบวก สร้างแรงจูงใจ เช่น การจูงใจให้คนช่วยกันทำดีถวายในหลวง การเจริญรอยตามพระบาทที่พระองค์ทำเพื่อประชาชน เป็นเครือข่ายการทำความดี สร้างความสุขในสังคม เปลี่ยนความโศกเศร้า เป็นพลังที่มาจากความจงรักภักดี ความรักอันยิ่งใหญ่ที่เรามีต่อพระองค์ท่าน ให้เป็นคุณความดีของแผ่นดินตลอดไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น