เลื่อนเปิดบริการระบบ “พร้อมเพย์”ไปปี2560 ทดสอบว่าไม่มีจุดอ่อน

b-3

แบงก์ชาติตัดสินใจเลื่อนเปิดให้บริการระบบพร้อมเพย์ ออกไปเป็นไตรมาสแรกปี 2560 เพื่อทดสอบระบบให้มีความพร้อมมากที่สุด ตามข้อเสนอของสมาคมธนาคารไทย เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งต้องรอบคอบ และพร้อมมากที่สุดแบบไม่มีจุดอ่อน
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชําระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ไทย สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ได้ร่วมพัฒนาบริการพร้อมเพย์ เพื่อเป็นระบบพื้นฐานรองรับบริการโอน และชำระเงินของประเทศ ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามการพัฒนา และทดสอบระบบพร้อมเพย์ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้หารือร่วมกันทุกสัปดาห์ เพื่อให้สามารถดําเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ ระบบพร้อมเพย์ เป็นโครงการขนาดใหญ่ มีธนาคารเข้าร่วม 21 ธนาคาร และมีช่องทางการให้บริการหลากหลาย ได้แก่ ATM, Mobile Banking และ Internet Banking ตลอดจนมีผู้สนใจลงทะเบียนใช้บริการเป็นจำนวนมาก
จากการหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ และบริษัท NITMX1 เพื่อติดตามความคืบหน้าของการทดสอบระบบ ได้เห็นร่วมกันว่า การทดสอบระบบให้รอบด้าน และมีความพร้อมทุกธนาคารก่อนเปิดใช้บริการมีความสำคัญมาก เนื่องจากความปลอดภัย ความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือ ของการทําธุรกรรมทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดของระบบสถาบันการเงิน ดังนั้น จึงควรทำการทดสอบระบบทุกอย่างให้ละเอียดรอบด้าน และที่สำคัญต้องให้ทุกธนาคารที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมในการเปิดให้บริการพร้อมกันได้หลากหลายช่องทาง รวมทั้งสามารถรองรับปริมาณธุรกรรมที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตได้ด้วย
นอกจากเรื่องการทดสอบระบบแล้ว ธปท. เห็นว่า ธนาคารทุกแห่งที่เข้าร่วมโครงการควรเตรียมความพร้อมให้บริการลูกค้า มีการอบรมพนักงานทั้งที่สาขาธนาคาร และ Call Center รวมทั้งมีการเตรียมการเกี่ยวกับการดูแล และคุ้มครองผู้ใช้บริการที่เป็นธรรม ตลอดจนมีการกำหนดระยะเวลาแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าอย่างเหมาะสม ดังนั้น ในการประชุมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาระบบพร้อมเพย์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 ทุกฝ่ายจึงเห็นพ้องกันว่า การที่สมาคมธนาคารไทย และธนาคารที่เข้าร่วมโครงการเสนอให้เลื่อนการเปิดให้บริการพร้อมเพย์ สำหรับธุรกรรมระหว่างบุคคลไป เป็นไตรมาสแรกของปี 2560 เป็นแนวทางที่เหมาะสม เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอสำหรับการทดสอบระบบให้มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และสามารถรองรับธุรกรรมจำนวนมากในอนาคตได้ ตลอดจนให้ทุกธนาคารที่ให้บริการสามารถเตรียมการภายในให้มีความพร้อมในการบริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนในการเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างทั่วถึง และสะดวก
อย่างไรก็ดี สำหรับการโอนเงินสวัสดิการจากภาครัฐสู่ประชาชน ระบบพร้อมเพย์ มีความพร้อมให้บริการได้ในไตรมาส 4 ปี 2559 ทั้งนี้ ธปท.จะติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลให้ทุกธนาคารมีระบบที่มั่นคงปลอดภัย และสามารถเปิดให้บริการพร้อมกัน รวมทั้งการเตรียมความพร้อมด้านการสื่อสารผ่านสาขา และ call center เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ระบบพร้อมเพย์ ในขณะนี้มี 21 ธนาคารเข้าร่วมโครงการ และจะให้บริการผ่าน 3 ช่องทาง คือ ATM, Mobile Banking และ Internet Banking ซึ่งปัจจุบัน ทุกธนาคารได้พัฒนาบริการพร้อมเพย์ ในส่วนของแต่ละธนาคารแล้วเสร็จ และได้เริ่มเข้าสู่การทดสอบ โดยเป็นการทดสอบการเชื่อมโยงระบบระหว่างธนาคารต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ กับระบบกลาง และการโอนเงินระหว่างธนาคารในรูปแบบต่างๆ ซึ่งพบว่า การทดสอบระบบเพื่อให้ครบทุกธนาคาร และทุกช่องทางที่ให้บริการ รวมทั้งให้ครอบคลุมกรณีตัวอย่างต่างๆ ใช้เวลามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเป็นระบบใหญ่ เชื่อมโยงหลายธนาคาร และมีช่องทางให้บริการที่หลากหลาย
และเพื่อให้มีเวลาในการทดสอบอย่างครบถ้วนในการประชุมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาระบบพร้อมเพย์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 สมาคมธนาคารไทย ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ และ NITMX จึงได้หารือกับ ธปท. ซึ่งได้ติดตาม และร่วมแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดมาตลอด และเสนอให้เลื่อนการเปิดบริการพร้อมเพย์ สำหรับธุรกรรมระหว่างบุคคลไปเป็นไตรมาสแรกปี 2560 เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอสำหรับการทดสอบระบบให้มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

ร่วมแสดงความคิดเห็น