เชียงใหม่เจ้าภาพจัดประชุม เรื่องชลประทานโลกครั้งที่ 2

b-3กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดประชุมชลประทานโลกครั้งที่ 2 ที่จังหวัดเชียงใหม่วันที่ 6-12 พฤศจิกายนนี้มีตัวแทนกว่า 60 ประเทศเข้าร่วมเพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วม และสร้างความยั่งยืนด้านอาหาร พร้อมจัดนิทรรศการแสดง พระอัจฉริยภาพด้านการบริหารจัดการน้ำชลประทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมชลประทานโลก ครั้งที่ 2 (2nd World Irrigation Forum : WIF2) และการประชุมมนตรีฝ่ายบริหารระหว่างประเทศ ครั้งที่ 67 ( The 67th International Executive Committee Meeting : 67th IEC Meeting) ว่า การประชุมจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 12 พฤศจิกายนนี้ ที่ ศูนย์ประชมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้หัวข้อ “การบริหารจัดการน้ำภายใต้สภาวะการเปลี่ยน แปลงของโลก : บทบาทการชลประทานต่อความยั่งยืนด้านอาหาร” ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งในระดับรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ระดับสูง เอกอัครราชทูต ผู้บริหารจากสถานบันการศึกษา นักวิชาการด้านน้ำและชลประทาน ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตอบรับเข้าร่วมประชุมแล้ว 60 ประเทศ จำนวนประมาณ 1,200 คน

สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ 3 หัวข้อหลักคือ 1) การแสวงหาแนวทางการบริหารจัดการร่วมกันเพื่อสร้างความสมดุลระหว่าง น้ำ อาหาร พลังงาน และระบบนิเวศ 2) การร่วมกันกำหนดวิธีการรับมือที่เหมาะสมกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่มีผลต่อปริมาณน้ำ ทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง และ3) เป็นการใช้ระบบชลประทานและการระบายน้ำ เพื่อลดความยากจนและความหิวโหย โดยร่วมวางแนวทางพัฒนาแหล่งน้ำซึ่งถือเป็นปัจจัยพื้นฐานให้เพียงพอที่จะสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยในการดำเนินกิจกรรมด้านการเกษตร

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญของการจัดประชุมครั้งนี้มาก เพราะนอกจากจะทำให้ได้รับทราบความก้าวหน้าของการชลประทานของไทย และมีผลทางอ้อมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศแล้ว ที่สำคัญยังจะทำให้ทั่วโลกได้รับทราบถึงพระอัจฉริยภาพด้านการบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะมีการนำเสนอแนวพระราชดำริด้านการบริหารจัดการน้ำชลประทานตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ โดยในส่วนของนิทรรศการจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ในวันที่ 7 – 8 พฤศจิกายน 2559

ด้านนายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานจะใช้ศูนย์การศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ต้อนรับและดูงานของผู้เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีและผู้ที่สนใจเพื่อแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านการบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พลิกผืนดินที่แห้งแล้งกว่า 8,500 ไร่ ให้เป็นผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ จนกลายเป็นศูนย์การศึกษาที่สมบูรณ์แบบ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อราษฎรที่จะเข้ามาศึกษากิจกรรมต่างๆ แล้วนำไปใช้ปฏิบัติอย่างได้ผล ทั้งการพัฒนาพื้นที่ป่าไม้ การพัฒนาแหล่งน้ำ ตลอดจนการส่งเสริมการประกอบอาชีพต่างๆ ไม่ว่าการเกษตร การประมง ปศุสัตว์ รวมทั้งด้านการเกษตรอุตสาหกรรมอีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น