วางกรอบหนุนเที่ยวเชิงกีฬา หวังขึ้นเบอร์หนึ่งในภูมิภาค

b3-w9h6-10รองพ่อเมืองเชียงใหม่นั่งหัวโต๊ะลุยพิจารณาจัดทำกรอบแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ตามแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ.2558-2560 เพื่อให้การพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยมีความสอดคล้องกับสถานการณ์การท่องเที่ยวของโลกในปัจจุบัน หวังเป็นการส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของไทย ตั้งเป้าหมายดันไทยเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาค

เมือ่วันที่ผ่านมา นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิจารณากรอบแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ตามโครงการศึกษาแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558 – 2560 ณ โรงแรมเมอร์เคียว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

โดยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การพิจารณากรอบแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ตามโครงการศึกษาแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558 – 2560 โดยกำหนดให้การท่องเที่ยวเชิงกีฬา เป็นแนวทางการพัฒนาหนึ่งในยุทธศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อให้การพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยมีความสอดคล้องกับสถานการณ์การท่องเที่ยวของโลกในปัจจุบัน เป็นการส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของไทย ให้บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาค

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ซึ่งการกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนาการท่องเที่ยวทางกีฬาของประเทศไทย และแนวทางการส่งเสริมสำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวที่เหมาะสม จะเป็นแนวทางในการส่งเสริมสนับสนุนแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬาระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนต่างๆ และเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวที่แตกต่างโดยใช้ทักษะในการจัดการขั้นสูง สร้างศักยภาพในการแข่งขันและเป็นจุดขายในอนาคต

โดยการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมีวัตถุประสงค์ในการเดินทางท่องเที่ยวใน 2 ลักษณะ คือ 1.นักท่องเที่ยวเดินทางเพื่อติดตามชมกีฬาในมหกรรมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติที่ชื่นชอบในทัวร์นาเมนท์ที่สำคัญ และ 2.นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเล่นกีฬา โดยมีแรงจูงใจจากความสนใจในชนิดของกีฬาและสถานที่เล่นกีฬา ซึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬานี้ สามารถสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี นายพุฒิพงศ์ กล่าวปิดท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น