สัมมนาทิศทางการพัฒนาและ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา

กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สำนักงาน กทจ.ชม. จัดประชุมเพื่อพิจารณากรอบแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) โดยมี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิด เมื่อวันที่ผ่านมา ณ ห้องปารีสโรงแรมเมอร์เคียว เชียงใหม่
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การท่องเที่ยวถือเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งก่อให้เกิดรายได้ประมาณร้อยละ 16 ของ GDP ของประเทศ เป็นแหล่งที่มาของรายได้ก่อให้เกิดการ กระจายรายได้และการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในปี 2558 ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 2.44 ล้านบาท ในจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 29.8 ล้านคน และในปี 2559 คาดว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในไทยมีจำนวนกว่า 32 ล้านคน โดยขยายตัวร้อยละ 8 จากปีที่ผ่านมา แต่การท่องเที่ยวไทยยังมีความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ ที่มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว และอาจส่งผลให้จำนวนและรายได้การท่องเที่ยวของประเทศไม่บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจโลก ภัยพิบัติ และภัยก่อการร้าย
ทิศทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ในแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558-2560 ได้กำหนดให้การท่องเที่ยวเชิงกีฬา เป็นแนวทางการพัฒนาหนึ่งในยุทธศาสตร์เพื่อให้การพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยมีความสอดคล้องกับสถานการณ์การท่องเที่ยวของโลกในปัจจุบัน และเป็นการส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของไทย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬาจึงเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวที่แตกต่างโดยใช้ทักษะในการจัดการขั้นสูง ที่สร้างศักยภาพในการแข่งขันและเป็นจุดขายของไทยในอนาคต
การท่องเที่ยวเชิงกีฬา ( Sports Tourism ) เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมีวัตถุประสงค์ในการเดินทางท่องเที่ยวใน 2 ลักษณะ ได้แก่ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเล่นกีฬา โดยมีแรงจูงใจจากความสนใจในชนิดของกีฬาและสถานที่เล่นกีฬา เช่น กีฬาปีนเขาที่ไร่เล ดำนํ้าที่เกาะเต่า การร่วมวิ่งกรุงเทพมาราธอน เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬานี้ สามารถสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวไทยได้เป็นอย่างดี และสอดคล้องกับแนวโน้มการเล่นกีฬาที่มีความนิยมเล่น กีฬาที่เล่นคนเดียวมากขึ้น ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงกีฬา จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้กิจกรรมกีฬาเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากขึ้น