แหวกม่านฟ้าบนเส้นทางสาวพิสุทธิ์ ขอบคุณอุทยานการค้ากาดสวนแก้ว เส้นทางของป่าและน้ำที่บริสุทธิ์

02

งานนี้”พ่อหลวงแช่ม”ขอขอบคุณข้อมูลจากบริษัทกาดสวนแก้ว โดยเฉพาะคุณแจ้ ร.ต.ท.สุชัย เก่งการค้า และทุก ๆ คนกับข้อมูลที่นำมาเผยแพร่ให้ได้รู้จักและอ่านเพื่อประเทิงความรู้กับคำนิยามที่ตั้งไว้นั่นคือ”แหวกม่านฟ้าบนเส้นทางพิสุทธิ์” นั่นคือการท่องเที่ยวในเชิงเกษตรทุกพื้นที่ของแผ่นดินล้านนา
เริ่มต้นจากองค์พ่อครูบาศรีวิชัยเจ้าที่ทุกคนที่มาเยือนเชียงใหม่ที่จะต้องเข้ามานมัสการกราบขอพรองค์ครูบาเจ้านี่คือจุดเริ่มต้นกับสิ่งที่จะเขียน !
ข้อมูลและการเรียบเรียงจะเป็นของผู้จัดทำเพียงแต่เสริมความเข้าใจของผู้อ่านให้เข้าใจมากที่สุด เอ้า!เรานั่งอยู่ที่นที่สูงแล้วมองเมฆหมอก หรือ สายฝนที่ผ่านเทือกเขาดอยสุเทพ-ปุย สิ่งที่เราเห็น(จินตนาการ)จะเห็นเขาสลับซับซ้อนที่ดูค่อนข้างที่จะลึกลับและน่าคนหา ครับ ใช่กับข้อมูลที่เราจะต้องดั้นด้นขึ้นไปในแต่ละจุดกับ”เส้นทางสายพิสุทธิ์”
กับอีกในมุมหนึ่งของ”ขุนช่างเคี่ยน”ความงามของผืนป่าสีชมพูที่ทอดเรยงรายล้วนด้วยดอกพญาเสือโคร่งที่งดงามที่สุดมุมหนึ่งของเมืองเชียงใหม่”ป่าดอยสุเทพ-ปุยได้ชื่อว่าเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำปิงที่หล่อเลี้ยงทุกชีวิตในเมืองเชียงใหม่หลังจากไหว้องค์ครูบาการเดินทางก็พร้อมที่จะเริ่มต้นที่ธรรมชาติน้ำ
ตกมณฑาธารกับยอดที่สูงสุดที่จะต้องไปนั่นคือความสูง 1,000 เมตรจากพื้นดินสู่บนยอดดอยสุเทพ-ปุย และ ณ จุดนี้ได้สร้างพระตำหนักภูภิงค์ราชนิเวศขึ้นที่ดอยปุยเมื่อปี 2540 เพื่อเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯสมเด็จพระราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์
การขึ้นไปสู่จุดที่สูงสุดจะขับรถหรือปั่นจักรยานก็ตามใจกับสิ่งที่พร้อมของแต่ละคนกับสิ่งที่ควรแนะนำส่วนใหญ่จะใช่แบบ Cross Country นั่นคือสะดวกกับเส้นทางออฟโรดเลาะไปตามเส้นทางถนนเมนทางขึ้นดอยสุเทพ หรือเราจะแวะตามข้างทางที่เป็นผืนป่าไม่เบญจพรรณที่ให้ความเขียวขจียามหน้าน้ำ หรือ ฝนที่โปรยลงมาอย่างน้ำตกมณฑาธารระยะทาง 1,600 เมตร ถ้าเดินจะใช้เวลา 1.5 ช.ม.ถ้าไม่รีบ
เส้นทางการศึกษาธรรมชาติวัดผาลาด -วัพพระธาตุดอยสุเทพ สองข้างทางจะมีโบราณสถานเก่าแก่หลายจุดทำให้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่มีคุณค่าในการสัมผัสธรรมชาติและอารยะที่บรรพชนเราได้สร้างเอาไว้ และใครจะรู้บ้างว่าก่อนที่องค์ครูบาศรีวิชัยจะสร้างวัดดอยสุเทพเส้นที่จะต้องขึ้นผ่านนั่นคือจากด้านล่างปัจจุบันยังเป็นเส้นทางที่เดินขึ้นได้โดยไปหยุดและพักที่วัดผาลาดนี่แหละก่อนที่จะขึ้นไปสู่ดอยสุเทพ
เขตอุทยานแหงชาติดอยสุเทพ-ปุย ครอบคลุมเนื้อที่ของผืนป่าประมาณ 160,000 ไร่และครอบคลุมพื้นที่ใน 4 อำเภอของเมืองเชียงใหม่คือ อ.เมือง อ.หางดง อ.แม่ริม และ อ.แม่แตง ทอดยาวไปสุดสายตากับความสวยของธรรมชาติ ถ้าจะให้สนุกและสุดมันนอกจากรถยนต์ที่ขึ้นถึงเส้นทางดอยสุเทพ-ปุย ควรจะเป็นรถจักรยานวิบาก หรือ Motor Bike ต้องไปช่วงหน้าฝนอย่างที่บอกว่ายิ่งเละยิ่งสนุก
ครับ เมื่อขึ้นไปถึงพื้นที่ป่าที่เขียวสดใสจะเห็นสภาพสองข้างทางบริเวณรนี้จะมีนกให้ชมและส่องมากที่สุดอาทินกสีชมพูสวน-นกปรอดหัวโขน-นกตั้งล้อ-นกเดินดงสีน้ำตาลแดง-นกแต้วสีน้ำเงิน-นกปรอดหัวจุก-นกปรอทหัวขาว-นกเขียวก้านตองท้องสีส้มฯลฯ ครับ การดูนกถือว่าเป็นกิจกรรมการศึกษาธรรมชาติอีกรูปแบบหนึ่งที่ให้ทั้งความเพลิดเพลินจากความงามของนกและเราจะเข้าใจความสัมพันธ์ของนกกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับดอยสุเทพจุดเด่นคือเป็นแหล่งที่จะมาท่องเที่ยวแล้วชมธรรมชาติถือว่าใกล้เมืองที่สุด ไปมาง่ายใครที่มาเชยงใหม่อยากขึ้นมาชมเพียงครึ่งวันคุณก็มีความสุขกับความรู้ที่คุณได้เห็นและสัมผัส ดอยสุเทพ-ปุยมีจุดเด่นที่น่าสนใจคือบริเวณบ้านพักดอยสุเทพเส้นทางไปน้ำตกมณฑาธารเส้นทางที่จะไปทางห้วยคอกม้าและบริเวณสันกู่ใกล้ดอยปุย
การผจญภัยไต่น้ำตกมณฑาธาร
ถ้าถามว่าอันตรายหรือปล่าวเมื่อยามหน้าฝนก็ค่อนข้างจะมีมากสำหรับในเดือนที่ฝนฉ่ำความสวยของม่านหมอกจะปรกคลุมทั่วทั้งบริเวณของที่ทำการน้ำตกมณฑาธาร ถ้ายิ่งเช้า ๆ ด้วยแล้วม่านฝนกที่ตกลงมาจะเป็นม่านหมอกสีขาวยิ่งทำให้ดูลึกลับ น่าค้นหากับการผจญภัยการไต่น้ำตก 9 ชั้นของมณฑาธาร
น้ำตกมณฑารธารหรือน้ำตกสันป่ายางตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยเป็นน้ำตกที่สวยงามสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 730 เมตร มีทั้งหมด 9 ชั้นคือน้ำตกไทยน้อยเป็นน้ำตกที่สูงสุดที่ไหลมาจากห้วยคอกม้าแล้วจะไหลลงไปสมทบกับน้ำตกมณฑาธาร ผ่านผาเงิบ วังบัวบาน น้ำตกห้วยแก้วก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำปิง
คำนิยายง่าย ๆ ของกับชื่อและที่มาของมณฑาธารมาจากต้นมณฑา ซึ่งเป็นไม้ยืนต้น ดอกสีขาว และสีแดงใบใหญ่สีเขียวจัดเราจะเห็นได้ทั่วไปตามข้างทางที่เดินไปนั่นแหละลักษระของน้ำตกกับความสวยของสิ่งที่เห็นน้ำตกที่ตกลงมาจะแยกออกปเน 2 สายเล็ก ๆ แล้วไหลลงสู่แอ่งก่อนที่จะผ่านโขดหินลงไปชั้นที่ 1 จะอยู่ห่างจากน้ำตกห้วยแก้วประมาณ 3 ก.ม. เรามาบอกกันที่ว่าเวลาของการผจญภัย
ในพื้นที่นี้จากชั้นที่ 1-9 ระยะทาง 1,900 เมตร ใช้เวลาของการเดินทางปะมาณ 1 ช.ม.กับอีก 22 นาทีหรือมากกว่านั้น
ข้อควรระมัดระวัง ! โดยเฉพาะชั้นที่ 4 ชั้นนี้เป็นหน้าผาลาดยาวและมีทางแยกด้วยถ้าไม่มีคนนำทางอาจจะทำให้เราหลงทางได้แม้แต่ไกด์ก็เถอะถ้าไม่ชำนาญทางถ้าเดินผ่านชั้นที่ 4 มาได้เมื่อถึงชั้นที่ 5 ชั้นนี้เราจะได้เห็นต้นมณฑาธารชัดที่สุดจะเป็นต้นใหญ่อยู่กลางน้ำตกเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ไม่นานนักเราก็มาถึงชั้นที่ 9 สมใจหมาย น้ำตกไทรน้อย เป็นน้ำตกชั้นสุดท้ายของน้ำตกมณฑาธารอยู่ตรงหน้าเรานั่นแหละและตอนนี้เราจะถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยที่ขึ้นเต็มไปหมดแบบไม่มีพื้นที่ที่จะให้เรายืนซะด้วยซ้ำไป
ทั้งหลายทั้งปวงกับการผจญภัยมากหลายขุมกับการศึกษาธรรมชาติของขุนเขาที่เรียกว่าอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย เราเดินมาถึงจากไทรย้อยอีกประมาณ 1.5
ก.ม.เราก็ถึงจุดหมายปลายทางนั่นคือบ้านพักของอุทยานดอยสุเทพ-ปุย วันนี้หัวหน้าอุทยานดังกล่าวที่เพิ่งจะย้ายมาใหม่คือคุณดุ่ย กริช คงสตรี ลองติดต่อดูท่านหัวหน้าคนนี้สุดหล่อใจดีอีกลองโทรสอบถามได้เลย081-9500191 ขอบคุณข้อมูลจาก
บริษัทกาดสวนแก้ว จำกัด

พ่อหลวงแช่ม

ร่วมแสดงความคิดเห็น