14 พ.ย.เป็นต้นไปสู่ภาวะปกติ บันเทิงให้เปิดได้ เทศกาลยังมีต่อ ครม.ไฟเขียว แต่ให้ยึดกรอบที่ กม. กำหนด

“ประยุทธ์” ไฟเขียว ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.เป็นต้นไป งานบันเทิงเข้าสู่โหมดปกติ กิจกรรมต่างๆ ดำเนินการได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่และเป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด โยนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้แนะนำในพื้นที่ เผยวันที่ 14 วันแรกที่จะมีการชักธงชาติเต็มเสาเช่นเดิม พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนราชการร่วมไว้ทุกข์ให้ครบ 1 ปี

วันที่ 1 พ.ย.59 ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมฯ พันเอกหญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ทางรัฐบาลได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งการนำเสนอข่าวและกิจกรรมบันเทิง ว่า ผลจากการหารือดังกล่าวได้มีการจำแนกกิจกรรมต่างๆ เป็น 9 ลักษณะ ประกอบด้วย 1.งานเทศกาลระดับประเทศ ได้แก่ งานลอยกระทง การจัดงานคริสต์มาส วันปีใหม่ 2.งานเทศกาลระดับจังหวัด เช่น งานกาชาด งานเทศกาลผีตาโขน 3.งานส่งเสริมเศรษฐกิจระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น เช่น กิจกรรมถนนคนเดิน ประเพณีชนวัว 4.งานรื่นเริงวัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น ลิเก ลำตัด ดนตรี มหรสพ และการประกวดต่างๆ 5.กิจกรรมสถานบันเทิงต่างๆ เช่น ไนท์คลับ ผับบาร์ เป็นต้น 6.กิจกรรมที่จัดภายในโรงแรม เช่น การจัดประชุมสัมมนา การเลี้ยงสังสรรค์ 7.การแสดงคอนเสิร์ต 8.งานตามประเพณีวัฒนธรรม เช่น งานกฐิน ผ้าป่า และ 9.งานแข่งขันกีฬาทุกระดับและกองเชียร์

ทั้งนี้รัฐบาลมีความเห็นว่าการจัดกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าวสามารถจัดได้ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป โดยสิ่งที่ได้มีการดำเนินการอยู่แล้วทุกภาคส่วนสามารถดำเนินการจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ เช่น การจัดประชุมสัมมนา งานมงคลสมรส งานกฐิน ฯลฯ และให้ผู้จัดงานพิจารณาถึงความเหมาะสม และให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้คำแนะนำและหารือร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้การใช้พื้นที่และรูปแบบกิจกรรมเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่

สำหรับการจัดรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์สามารถดำเนินการได้ตามปกติ โดยขอความร่วมมือผู้ที่รับผิดชอบพิจารณาการนำเสนอรายการต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเหมะสม และควรมีการนำเสนอรายการที่ให้ความรู้และสาระต่างๆ ให้ประชาชนได้รับชม เพื่อการพัฒนาด้านต่างๆ ของประเทศในอนาคตด้วย

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์มีกำหนด 1 ปี เช่นเดิม ในส่วนของประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวให้พิจารณาตามความเหมาะสม
ส่วนสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และสถานศึกษาทุกแห่งที่ลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 จะครบกำหนด 30 วัน ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 โดยในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2559 จะเป็นวันแรกที่จะมีการชักธงเต็มเสาเช่นเดิม ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำถึงดำเนินการในเรื่องต่างๆ ว่า ขอให้ทุกภาคส่วนดำเนินการโดยไม่ขัดต่อหลักกฎหมายและให้พิจารณาตามความเหมาะสม

ร่วมแสดงความคิดเห็น