เตรียมช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวในเชียงใหม่

dsc08133

กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่กว่า 4 แสนไร่ ขณะที่ทางด้านพาณิชย์จังหวัดฯ พร้อมเข้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เตรียมจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรมากขึ้น ขณะที่ทางพื้นที่ อำเภอฝาง ทหารรับสีข้าวฟรีและรับซื้อข้าวช่วยชาวนา

วันที่ 7 พ.ย.59 พ.อ.เศรษฐพล เกตุเต็ม รอง ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยฯได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสรุปสถานการณ์และปัญหาเกี่ยวกับผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าว ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต ทั้งนี้ ปีการผลิต 2559 /60 ในพื้นที่ปลูกข้าวทั้งสิ้นกว่า 4 แสนไร่ ทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้า คาดว่าจะได้รับผลผลิตกว่า 2 แสน 5 หมื่นตัน ขณะนี้เกษตรผู้ปลูกข้าวเริ่มทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วบางส่วน โดยผลผลิตส่วนใหญ่เป็นข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง ราคาอยู่ที่ประมาณ กิโลกรัมละ 7 – 8 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพอรับได้ แต่เกรงว่าเมื่อผลผลิตออกสู่ตลาดมากจะทำให้ราคาตกต่ำ

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนา ทาง มทบ. 33 ได้รับซื้อข้าวเหนียวสันป่าตองกับทางสหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง เดือนละกว่า 5 พัน 7 ร้อยกิโลกรัม เพื่อนำไปเลี้ยงกำลังพล และจัดส่งกำลังพลไปช่วยเกษตรกรเกี่ยวข้าวเพื่อลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย ส่วนทางด้านของ ธ.ก.ส.จะมีโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2559 – 28 ธ.ค. 2560 ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานขอความร่วมมือส่วนราชการต่าง ๆ รับซื้อข้าวที่แปรรูปโดยตรงจากเกษตรกร และในระหว่างวันที่ 7 – 8 พฤศจิกายน 2559 จะมีการจัดตลาดนัดข้าวประชารัฐ โดยจะมีการนำข้าวที่แปรรูปแล้วโดยเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรมาจำหน่าย ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดฯ สำหรับปัญหาที่พบในขณะนี้ คือ จำนวนยุ้งฉางมีน้อย จากการหารือมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน อยากให้มีสถานที่เก็บข้าวของเกษตรกรในรูปแบบของสหกรณ์ หรือ วิสาหกิจชุมชน ซึ่งทางกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ จะสรุปนำเสนอผ่านกองทัพภาคที่ 3 ต่อไป

ขณะที่ทางด้าน นางนิยดา หมื่นอนันต์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวใหม่ ปีการผลิต 2559/60 และบางพื้นที่มีปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งถือว่าเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป็นอย่างมาก ดังนั้น พาณิชย์จังหวัดฯ จึงเตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยจะจัดตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2559/2560 เพื่อให้เกิดกลไกการแข่งขันการรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกของเกษตรกร ให้มีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น และเพิ่มทางเลือกให้แก่เกษตรกรในการจำหน่ายข้าวเปลือกช่วงผลผลิตออกมาก กระจายออกไปตามอำเภอต่างๆ จำนวน 6 ครั้ง

ซึ่งจะเริ่มดำเนินการครั้งที่ 1 ในวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2559 ณ สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด ครั้งที่ 2 วันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2559 ณ โรงสีข้าวสมคิดหนองตุ้ม อำเภอฝาง ครั้งที่ 3 วันที่ 14-16 พฤศจิกา ยน 2559 ณ ท่าข้าวสันกำแพง อำเภอสันกำแพง ครั้งที่ 4 วันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2559 ณ สหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ด จำกัด ครั้งที่ 5 วันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2559 ณ สหกรณ์การเกษตรแม่ริม จำกัด และครั้งสุดท้าย วันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2559 ณ ท่าข้าวพรพาณิชย์ สาขาเจดีย์แม่ครัว อำเภอสันทราย

dsc08145

ทั้งนี้ เกษตรกรควรเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกในระยะพลับพลึง หรือข้าวที่ครบอายุการเก็บเกี่ยวเพื่อให้ได้ข้าวคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งภายในตลาดนัดข้าวเปลือก เกษตรกรที่นำข้าวเปลือกมาจำหน่าย จะได้พบกับผู้ซื้อหลายราย เครื่องชั่งน้ำหนักที่ได้มาตรฐาน เครื่องวัดความชื้นถูกต้อง ราคาที่เป็นธรรม รวมถึงมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้บริการทุกขั้นตอน ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้อีกทางหนึ่ง

ขณะที่ทางพื้นที่ อำเภอฝาง พ.อ. อภิรัชฏ์ รามนัฏ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้เปิดโรงสีเพื่อรับสีข้าวเปลือกให้กับเกษตรกรฟรีไม่คิดเงินตลอดไป และขอให้ทางเกษตรกรได้มาลงทะเบียน และยังทำการรับซื้อข้าวจากเกษตรกร เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ให้เป็นอาหารแก่ทางกำลังพลได้รับซื้อในราคาที่เกษตรกรพอใจ และในวันนี้ได้ทำการเปิดโรงสีในพื้นที่ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 ตำบลทุ่งละคร อำเภอเชียงดาว  และมีเกษตรกรจำนวนหนึ่งได้เข้ามาและนำข้าวเปลือกมาทำการสีฟรี และมีเกษตรกรได้ทะยอยนำข้าวเปลือกมาขายให้กับทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 เพื่อใช้ประกอบอาหารเลี้ยงกำลังพล และนักเรียนโรงเรียนชาวเขาหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 ซึ่งมีจำนวนทั้งหมดประมาณ 350 คน ซึ่งทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อน ที่ 32 ต้องทำอาหารเลี้ยงทุกวัน วันละ 3 มื้ออยู่แล้ว

โดยทาง พ.อ.อภิรัชฏ์ รามนัฏ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าทางกองบัญชาการรับนโย บายให้ช่วยเหลือเกษตรกรและทางหน่วยจะได้นำเครื่องสีข้าวไปให้ทางเกษตรกรยืมใช้ เพื่อจะไม่ต้องไปเสียค่าสีและสามารถนำไปสีและใส่ถุงจำหน่ายได้เลย เพราะโรงสีเป็นโรงสีสมัยใหม่สามารถที่จะปรับให้ข้าวหรือปรับสีข้าวกล้องได้เลย และทางหน่วยได้ทำการสีข้าวแล้วจำหน่ายให้กับประชาชน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดและมีชาวบ้านมารอรับซื้อจำนวนหนึ่ง จนสีไม่ทันกับคนซื้อ จากนั้นได้ทำการมอบปุ๋ยอินทรีย์สูตร 6-3-3 ให้กับเกษตร กรที่นำข้าวมาสีฟรีอีก จำนวน 20 กระสอบ เพื่อปลุกจิตสำนึกเกษตรกรให้หันมาใช้ปุ๋ยอินทรียปลอดสารพิษ

ร่วมแสดงความคิดเห็น