ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อ ชะลอขายข้าวเปลือก

b-6ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เผยรัฐบาลเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการให้ความช่วยเหลือชาวนาตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 และโครงการให้ความช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่ชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิปีการผลิต 2559/60 วงเงินรวม 46,785 ล้านบาท

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า รัฐบาลเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการให้ความช่วยเหลือชาวนาตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 วงเงินรวม 27,410 ล้านบาท และโครงการให้ความช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่ชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิปีการผลิต 2559/60 วงเงินรวม 19,375 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 46,785 ล้านบาท โดยเมื่อชาวนาทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วขอให้ทำการลดความชื้นและดูแลคุณภาพข้าวก่อนนำข้าวเปลือกขึ้นยุ้งฉาง และไปติดต่อพนักงาน ธ.ก.ส. ใกล้บ้าน ดำเนินการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวเปลือก เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดย ธ.ก.ส. พร้อมโอนเงินเข้าบัญชีภายใน 3 วัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับเงินเป็นสินเชื่อเพื่อชะลอการขายจาก ธ.ก.ส.ตันละ 9,500 บาท (ต้นข้าว 36 กรัมขึ้นไป) ระยะเวลาคืนเงินไม่เกิน 5 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย และได้รับเงินช่วยเหลือค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉางตันละ 1,500 บาท ตามโครงการชะลอการขายข้าวเปลือกฯ นอกจากนี้ชาวนาจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวอีกตันละ 2,000 บาท (คำนวณจากการจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 800 บาท ไม่เกิน 15 ไร่) ตามโครงการให้ความช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพ รวมเป็นเงินที่ชาวนาจะได้รับทั้งสิ้น 13,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก

สำหรับชาวนาที่ไม่มียุ้งฉางเก็บข้าวเปลือกไว้รอราคาและต้องขายข้าวเปลือกเอง ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลตามโครงการให้ความช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ตันละ 2,000 บาท เพิ่มเติมจากราคาข้าวเปลือกที่ขายได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรง โดยโครงการนี้ได้มีการขยายกลุ่มเป้าหมายตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกฯ ให้ครอบคลุมถึงสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการรวบรวมแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มของข้าวเปลือกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น