โครงการ “รู้และป้องกันไว้ ปลอดภัยจากมะเร็งเต้านม”

นายแพทย์ดลสุข พงษ์นิกร รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ“รู้และป้องกันไว้ ปลอดภัยจากมะเร็งเต้านม” ณ ห้องประชุมโรงเรียนลำปางกัลยาณี อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง โดยมีทีมคณาจารย์โรงเรียนลำปางกัลยาณี ให้การต้อนรับ กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักศึกษาโรงเรียนลำปางกัลยาณี จำนวน 250 คน กิจกรรมประกอบด้วย การบรรยายความรู้เรื่องมะเร็งเต้านม การจัดนิทรรศการความรู้เรื่องมะเร็งเต้านม และการสอน สาธิตการตรวจเต้านมด้วยตนเอง

นายแพทย์ดลสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคมะเร็งเต้านมว่า มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในสตรีของประเทศไทย โดยมีอัตราอุบัติการณ์เท่ากับ 26.4 ต่อ 100,000 ประชากร และสถิติโรคมะเร็งในภาคเหนือช่วงปี พ.ศ.2551-2555 พบมะเร็งเต้านมมากที่สุด รองลงมาได้แก่ มะเร็งปอดและมะเร็งปากมดลูก (อัตรา 27.9, 18.0 และ 17.2 ต่อประชากร 100,000 คน ตามลำดับ) ส่วนสถิติโรคมะเร็งในจังหวัดลำปาง

มะเร็งเต้านมพบมากที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมาได้แก่ มะเร็งปอด และมะเร็งปากมดลูก ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดของผู้ป่วยที่มารับบริการ ณ โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง โดยมีจำนวนผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นจากปี 2557 จากจำนวน 543 รายต่อปีเป็น 650 รายต่อปี ในปี 2558 และมียังคงแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โรคมะเร็งเต้านมพบมากที่สุดช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป และปัจจุบันนี้พบว่าแนวโน้มจะพบมากขึ้น รวมทั้งพบในกลุ่มที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมที่สำคัญได้แก่ กรรมพันธุ์ พบประมาณ 5 -10 % การรับประทานอาหารไขมันสูง ไม่ออกกำลังกายอย่างสมํ่าเสมอ การได้รับฮอร์โมนเป็นเวลานานกว่า 5-10 ปี และปัญหาที่พบคือหญิงไทย
เพิกเฉยต่อการตรวจมะเร็งเต้านม และมาพบแพทย์เมื่อพบความผิดปกติและเป็นมะเร็งในระยะลุกลามแล้ว ซึ่งยากแก่การรักษา ซึ่งจริงๆ แล้ว มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่สามารถป้องกัน และรักษาให้หายขาดได้ ถ้าพบตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม
และเนื่องด้วยในเดือนตุลาคม ของทุกปี เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ป้องกันมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง จึงได้จัดทำโครงการ “รู้และป้องกันไว้ ปลอดภัยจากมะเร็งเต้านม” แก่นักเรียน โรงเรียนลำปางกัลยาณี อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย สามารถตรวจค้นหามะเร็งเต้านมได้ด้วยตนเอง เพื่อค้นหาความผิดปกติในระยะเริ่มต้น และสามารถนำความรู้ไปเผยแพร่ต่อบุคคลในครอบครัว เพื่อป้องกันมะเร็งเต้านมได้และลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งเต้านมในอนาคต.