ตำรวจภาค 5 ตามรวบมือปืนยิงประธานชมรมรถสี่ล้อเล็กหาดป่าตองภูเก็ต หลังหนีหนีมากบดานบ้านแฟนสาวในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หวังรอเรื่องเงียบ แต่สุดท้ายไม่รอด โดนเจ้าหน้าที่ตามตัวได้คาบ้าน ตรวจสอบประวัติพบเป็นมือปืนรายสำคัญของพื้นที่ภาคใต้ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ
การจับกุมตัวคนร้ายหนีคดีครั้งนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 12 พ.ย.59 โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 ได้นำกำลังบุกเข้าจับกุมตัว นายเอกวัช หรือจุก พลประสิทธิ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/1 หมู่ 2 ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 707/2559 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ในข้อหา”ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ” โดยจับกุมได้ขณะกำลังอยู่กับแฟนสาวที่บ้าน ในหมู่บ้าน หมู่ 2 ต .เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 25 ต.ค.59 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้ายหลายคนบุกยิง นายสากล ศรีสมโภชน์ อายุ 58 ปี ประธานชมรมรถสี่ล้อเล็กหาดป่าตองภูเก็ต คารถตุ๊กตุ๊กดัดแปลง ยี่ห้อซูซูกิ ทะเบียนป้ายเหลือง 30-8458 ภูเก็ต ที่จอดติดไฟแดงกลางถนนหน้าหมู่บ้านภูเก็ตวิลล่ากะทู้ ถ.พระภูเก็ตแก้ว ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ด โดยนายสากล ถูกยิงเข้าที่บริเวณหัวไหล่ซ้าย 4 นัดกระสุนฝัง เข้าขั้วหัวใจ เสียชีวิตคารถ ในที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าการก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ ส่วนคสร้ายหลังลงมือก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไป
โดยต่อมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้หลายคน โดยหนึ่งในนั้นคือ นายเอกวัช ซึ่งมีประวัติเป็นกลุ่มมือปืนรายสำคัญของพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งหลังก่อเหตุ นายเอกวัช ได้หลบหนีมาอยู่กับแฟนสาวที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดภูเก็ต ได้สืบทราบเบาะแสและประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 5 ในการสืบสวนจับกุมตัวนายเอกวัช ได้ในเช้าวันนี้ จากนั้นได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทำการสอบสวนปากคำ และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.กะทู้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น