ช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดงานประเพณียี่เป็ง ตลอดตั้งแต่วันที่ 12-15 พ.ย.59 ซึ่งมีประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่เข้าร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก และได่มีการนำกระทงลอยลงในลำน้ำตลอดช่วงการจัดงาน โดยกระทงที่ถูกลอยในลำน้ำเหล่านี้ได้มากองรวมกันที่บริเวณประตูระบายน้ำแม่ปิง ม.3 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเช้านี้ทางผู้สื่อข่าวได้ทำการลงพื้นที่สำรวจที่บริเวณดังกล่าวพบว่า มีซากกระทงจำนวนมากลอยไปค้างอยู่บริเวณหน้าประตูระบายน้ำ และซากกระทงยังไหลมาตามกระแสน้ำอย่างต่อเนื่อง และลอยอยู่เหนือน้ำติดกันเป็นแพกว้าง มองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยตลอดช่วงของการจัดงานจนถึงวันนี้คาดว่าจะมียอดรวมสะสมรวมน้ำหนักหลายพันตัน ขณะเดียวกัน จากการที่กระทงเหล่านี้ลอยมารวมกันที่บริเวรดังกล่าว ได้มีชาวบ้านบางรายอาศัยช่วงนี้พากันลอยคอและลงเรือหาเศษเงินในกระทงที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวใส่ไว้วึ่งเชื่อว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ ทำให้บางคนได้เงินไปจำนวนไม่น้อยอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ในคืนนี้ถือเป็นคืนสุดท้ายของการจัดกิจกรรมและงานประเพณียี่เป็ง ซึ่งถือเป็นวันกระทงใหญ่ ที่คาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมาก นำกระทงมาลอยลงสู่ลำน้ำปิง อย่างไรก็ตามสำหรับกระทงที่ลอยมากองสุมรวมกันในบริเวณดังกล่าว ภายหลังการสิ้นสุดเทศกาลแล้ว ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะได้ร่วมกับทางประชาชน ชุมชน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานชลประทานที่ 1 , เจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.33 , สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ , องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการลงเก็บซากกระทงและขยะมูลฝอยในลำน้ำปิงอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนเหมือนเช่นทุกปี โดยการนำเรือท้องแบน พร้อมยานพาหนะเครื่องจักร และอุปกรณ์ ช่วยกันเก็บซากกระทงและขยะมูลฝอยในลำน้ำที่ลอยมาติดและกองเต็มบริเวณด้านหน้าประตูน้ำ รวมถึงตามจุดต่างๆ ทั่วลำน้ำปิงที่มีการจัดงาน เพื่อคืนความใสสะอาดให้กับลำน้ำ ตามนโยบายของรัฐบาลในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำปิง อีกทั้งเพื่อฟื้นฟูสภาพน้ำในแม่น้ำปิงให้กลับมาใสสะอาด และเพื่อนำเศษขยะมูลฝอย เศษวัสดุกระทง และเศษวัชพืช ไปกำจัดอย่างถูกวิธีไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนซากกระทงจำนวนมากที่ได้ทำการเก็บขึ้นมาแล้วนั้น ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ จะได้นำไปดำเนินการทำเป็นปุ๋ยหมักเพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตรต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น