กฎหมายไม่รองรับ อูเบอร์ แท็กซี่ ใครร่วมโทษหนัก ขนส่งชม.เตือนเจ้าของรถ เป็นเครือข่ายได้ไม่คุ้มเสีย

protest_against_uber_-_budapest_2016-01-18_2

ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ย้ำ! “อูเบอร์ แท็กซี่” ผิดกฎหมาย เตือนเจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลที่นำรถมาวิ่งร่วมกับอูเบอร์ จะมีโทษหนัก ขออย่าได้หลงเชื่อร่วมเป็นเครือข่าย เนื่องจากกฎหมายไทยยังไม่รองรับ ชี้หากเข้าร่วมอาจเกิดปัญหาตามมาภายหลังมากมาย ได้ไม่คุ้มเสีย
นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลเกี่ยวกับการรับสมัครสมาชิกและประชาสัมพันธ์เชิญชวนใช้บริการ Uber Taxi โดยให้เจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลสมัครเป็นสมาชิกกับ Uber ก่อนเพื่อให้สามารถใช้แอพพลิเคชั่น Uber Taxi กับรถยนต์ส่วนบุคคลในการนำรถไปรับจ้างในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ขอเรียนว่า เจ้าของรถที่หลงเชื่อจะมีความผิดตาม พรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ฐานนำรถส่วนบุคคลมาใช้รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วน Uber ไม่ใช่เจ้าของรถเป็นเพียงแต่ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น จึงไม่ถูกลงโทษ
ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการพบปะพูดคุยระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเจ้าหน้าที่ Uber ไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งได้มีการเน้นย้ำว่าแอพพลิเคชั่นของ Uber สามารถนำไปใช้กับรถยนต์สาธารณะเท่านั้นเนื่องจากเป็นรถที่ใช้รับจ้างซึ่งจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย หากนำไปใช้กับรถยนต์ส่วนบุคคลจะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายรถยนต์ฐานนำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างบรรทุกผู้โดยสารมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้กรมการขนส่งทางบกได้เคยชี้แจงให้ Uber ทราบแล้ว ตลอดทั้ง นายดรุณ แสงฉาย รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวภายหลังบริษัท อูเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าพบนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมว่า Uber ได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สามารถเปิดใช้บริการในประเทศไทยได้ หลังจากกรมการขนส่งทางบกสั่งงดให้บริการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันว่า Uber จะต้องทำตามกฎหมายของไทยเท่านั้น จะต้องลงทะเบียนผู้ขับขี่ให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถให้บริการได้ อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีการแก้ไขกฎหมายนั้นสามารถทำได้ แต่จะต้องรวบรวมข้อมูลผลการศึกษามีเหตุผลที่เหมาะสมและข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นกับ Uber ทั่วโลกมาประกอบ และที่สำคัญ Uber จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของไทยเท่านั้น ขณะนี้ Uber อยู่ระหว่างการสั่งห้ามเปิดให้บริการ ซึ่งหากฝ่าฝืนจะดำเนินการจับกุมและลงโทษตามกฎหมายทันที
ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ณ ห้องประชุมมณฑลทหารบกที่ 33 โดยมี พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (ค่ายกาวิละ) เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีมติเกี่ยวกับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายของ Uber ในพื้นที่เชียงใหม่โดยให้ใช้กฎหมายตามช่องทางปกติก่อน หากยังพบการฝ่าฝืนกฎหมายอีกจะนำกฎหมายความมั่นคงมาใช้เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคมตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของรถที่อยู่ในข่ายกระทำผิดจำนวน 8 ราย ให้มารายงานตัวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้เจ้าของรถได้ทยอยมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว
ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้ฝากย้ำสำหรับเจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลที่วิ่งร่วมกับ Uber Taxi รวมทั้งผู้ใช้บริการว่า การนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้รับจ้างผู้โดยสารซึ่งเจ้าของรถ/ผู้ขับขี่รถเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายแต่ Uber ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นไม่ใช่เจ้าของรถจึงไม่ใช่ผู้กระทำผิดจึงแจ้งเตือนมายังเจ้าของรถอย่าหลงเชื่อ นอกจากนี้แล้วเจ้าของรถอาจถูกตรวจสอบจากสรรพากรเนื่องจากมีรายได้เพิ่มจากการขับรถ ด้านการประกันภัยรถอาจไม่ได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากทำประกันภัยรถส่วนบุคคลแต่นำรถมารับจ้าง ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกรณีที่ผู้ขับรถเป็นมิจฉาชีพ การติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษอาจเกิดความล่าช้าหรือไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากผู้ขับรถส่วนบุคคลไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะจึงไม่ได้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ ไม่มีการตรวจสอบประวัติ บันทึกประวัติดังเช่นรถสาธารณะทั่วไป ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พิมพ์ลายนิ้วมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น นอกจากนี้หากกรณีที่รับผู้โดยสารซึ่งอาจจะเป็นมิจฉาชีพเช่นค้ายาเสพติดเจ้าของรถ/ผู้ขับรถก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้ กรณีผู้โดยสารมียาเสพติดมาด้วยเนื่องจากเป็นรถส่วนบุคคลไม่ใช่รถรับจ้าง สอบถามเพิ่มเติมที่ กลุ่มวิชาการขนส่ง โทร.0-5327-0411 และ 081-721-7999

ร่วมแสดงความคิดเห็น