เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปจร.กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ ตามรวบหนุ่มพม่าก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ หลังเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามหลบหนี แต่สุดท้ายไม่รอด ตรวจสอบประวัติเคยลงมือก่อเหตุมาแล้ว ก่อนนำของกลางไปหลอกขายให้กับคนรู้จัก ตำรวจตามยึดได้ของกลางคืน พร้อมส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
การจับกุมตัวผู้ต้องหาครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 18 พ.ย.59 โดยทาง จนท.ตำรวจ ชุด ปจร.กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รรก.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก. , พ.ต.อ.ปกรณ์ ผาทอง ผกก.สส. , พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ รอง ผกก.สส. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สารภี ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายจ่อคำ หรือแยง หรือสม อูส่างลู อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม 125 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน , แผ่นป้ายทะเบียน จฉก เชียงใหม่ 504 จำนวน 1 แผ่น และแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี ของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ หมายเลขทะเบียน จพพ 909 เชียงใหม่ จำนวน 1 แผ่น ในข้อหาความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 พ.ย.59 ที่ผ่านมา ทางเเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปจร.กก.สส.ภ.จว.เชียง ใหม่ ได้ร่วมกันออกตรวจสืบสวน และตรวจตรา ป้องกันเหตุการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่รับผิดชอบ ขณะตรวจมาถึงบริเวณถนนเข้าหมู่บ้านยวม หมู่ 5 ต.ไชยสถาน อ.สารภี พบ นายจ่อคำ ผู้ต้องหา ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดบริเวณใกล้สามแยกทางเข้าหมู่บ้าน แต่เมื่อนายจ่อคำ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีท่าทางพิรุธ พร้อมขี่รถหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามทัน และขอทำการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของกลาง ก็พบแผ่นป้ายทะ เบียน ของกลางดังกล่าวอยู่ที่ตะกร้าหน้ารถ
จากการสอบถามเอกสารหลักฐานการเป็นเจ้าของและการได้มา ปรากฏว่า นายจ่อคำ ไม่มีเอกสารใดๆ เกี่ยวกับรถมาแสดง ประกอบกับมีอาการมึนเมา ให้การวกวน และไม่มีเอกสารบัตรประจำตัวเพื่อแสดงสถานะตนเอง จึงได้นำตัวมาที่ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ เพื่อทำการซักถามโดยละเอียด และเพื่อตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับรถ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าตนเองเป็นชาวไทใหญ่ สัญชาติเมียนมา เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และจากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า เคยลงมือก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์มาแล้ว เมื่อวันที่ 28 ส.ค.58 และได้นำไปขายต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น