เปิดตลาดเชิงรุก กลุ่มจังหวัดล้านนา

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้าจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดเชิงรุกกลุ่มล้านนา ตามแผนปฎิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา 5 จังหวัดล้านนา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมศิลปะ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย เผยพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนามีความพร้อมในหลายๆด้าน และยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกด้วย

นางสาวศกลวรรณ ใจบุญเรือง นักศึกษาฝึกประสบการณ์ คณะวิทยาการจัดการสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา และ นายพีระพล ขันตี นักศึกษาฝึกประสบการณ์ สาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ รายงานว่า เมื่อวันที่ผ่านมา นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดเชิงรุกกลุ่มล้านนา (Lanna FAM Trip) ตามแผนปฎิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา พ.ศ. 2559 – 2563 จังหวัดเชียงใหม่โดยมี นายสุธน วิชัยรัตน์ ท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้กล่าวรายงาน ณ ห้องเชียงของ ศูนย์ประชุมนานาชาติคุ้มคำ (คุ้มขันโตก)
โดย นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดเชิงรุกกลุ่มล้านนา (Lanna FAM Trip) ตามแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยว ภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤศจิกายน 2559 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเขตอารยธรรมล้านนาประกอบไปด้วยด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน และจังหวัดพะเยา โดยภาพรวมปัจจุบันของการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนาทั้ง 5 จังหวัด ซึ่งมีจุดเด่นด้านทรัพยากร ด้านการท่องเที่ยว และศักยภาพในการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมศิลปะ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย ด้วยความพร้อมของทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว ทำให้ในพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนาจะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มการเติบโตได้ดีอย่างมาก โดยพิจารณาจากข้อมูลตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นทุกจังหวัด ซึ่งจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุดในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวคือจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และพะเยา ในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวไทยพบมากใน จังหวัดเชียงใหม่ และรองลงมาคือจังหวัดเชียงราย ลำปาง ลำพูน และพะเยา ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการจากนอกพื้นที่และสื่อมวลชนจากส่วนกลาง และในพื้นที่ ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเขตอารยธรรมล้านนาทั้ง 5 จังหวัด และการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจ จากการใช้บริการและจัดการสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น รวมถึงสื่อมวลชนที่เป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและมีคุณภาพ

ด้านนายสุธน วิชัยรัตน์ ท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ด้วยคณะรัฐมนตรี โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2557 รวม 11 เรื่อง โดยมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาข้อที่ 6 การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และสร้างสิ่งถูกใจและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกื้อกูลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวอันมีลักษณะโดดเด่นร่วมกัน หรือจัดเป็นกลุ่ม ที่จะเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากวิถีชุมชนรวมทั้งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิมและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยเน้นการให้ความรู้และเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินการควบคุมสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม ตลอดจนอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว

ท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า ซึ่งเขตพัฒนาการท่องเที่ยวด้านอารยธรรมล้านนาประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดลำปาง และจังหวัดลำพูน เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ศาสนาศิลปวัฒนธรรมตลอดจนสินค้า OTOP เครื่องปั้นดินเผา ไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผล โดยมีกลยุทธ์ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีบริการ ที่ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ในการดำเนินงานที่จะนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าวนั้น จำเป็นต้องมีการพัฒนาการท่องเที่ยวและการประชาสัมพันธ์ควบคู่กันไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ ที่มีการแข่งขันแย่งชิงลูกค้าที่มีศักยภาพของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจึงจำเป็นต้องดำเนินการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกเพื่อนำเสนอสินค้าที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และการบริการของจังหวัดที่มีอยู่เป็นจำนวนมากให้กับนักท่องเที่ยวได้รับทราบทั้งในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค เป็นการกระจายรายได้เข้าสู่ภาคประชาชนและท้องถิ่นต่อไป