ประชาชนทุกหมู่เหล่าในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมใจทำความดีบำเพ็ญเป็นพระราชกุศล ครบ 50 วัน ของการสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยช่วงเช้าทาง พ่อเมืองเชียงใหม่ นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลา 1,000,000 ตัว และในช่วงบ่าย จัดกิจกรรม พัฒนาเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 ด้านจ.ลำพูน ผู้ว่าฯ นำข้าราชการและประชาชน “รวมพลังแห่งความภักดี” ประกาศความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 22 พ.ย. 59 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมายังท่าน้ำ บริเวณหน้าวัดท่าหลุก ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 1,000,000 ตัว เพื่อบำเพ็ญเป็นพระราชกุศล ครบ 50 วัน แห่งการสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีประชาชนชาวเชียงใหม่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นตามที่ คสช. ได้กำหนดให้ในวันที่ 21 พ.ย. ถือเป็นวันรวมพลังแห่งความภักดีเพื่อบำเพ็ญเป็นพระราชกุศล ครบ 50 วัน แห่งการสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ดังนั้นทางด้านกรมประมงจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการจัดเตรียมสัตว์น้ำหลากหลายชนิดพันธุ์ อาทิ ปลาตะเพียนทอง ปลาตะเพียนขาว กุ้งก้ามกราม และปลาไทยท้องถิ่น ชนิดอื่นๆ จำนวนกว่า 1,000,000 ตัว เพื่อปล่อยสู่ลำน้ำปิง เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่สนพระทัยในกิจการด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนการศึกษาให้กับข้าราชการหรือนักเรียนไปศึกษาวิชาเพาะพันธุ์ปลา เพื่อฟื้นฟูทำให้พันธุ์ปลาตลอดจนพันธุ์สัตว์น้ำชนิดอื่นๆ สามารถแพร่ขยายพันธุ์จนประเทศไทยขึ้นชื่อในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรสัตว์น้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาในช่วงบ่าย นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำ หัวหน้าหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ และประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมใจกันพัฒนาเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ โดยร่วมมือกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เก็บขยะ ทำความสะอาด บนถนนศรีวิชัยตลอดสาย ตั้งแต่บริเวณลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ไปจนถึงบริเวณหน้าพระตำหนักภูพิงคพระราชนิเวศน์ รวมระยะทาง ประมาณ 17 กิโลเมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ที่พระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนิน มาปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวเชียงใหม่มากกว่า 92 ครั้ง นับตั้งแต่เสด็จเยือนจังหวัดเชียงใหม่เป็นครั้งแรกในวันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2501 ภายหลังจากเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ จากนั้นเมื่อปีพุทธศักราช 2504 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ขึ้น เพื่อใช้เป็นที่ประทับในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงงาน และเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเขตภาคเหนือ รวมทั้งเพื่อรับรองพระราชอาคันตุกะที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับในโอกาสต่างๆ ด้วย ซึ่งการพัฒนาเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระตำหนักภูพิงคพระราชนิเวศน์ในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีเนื่องใน ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89
ด้าน จ.ลำพูน เมื่อ เวลา 08.00 น. วันที่ 22 พ.ย.59 ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหารอ.เมืองลำพูน นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นำข้าราชการ ศาล ทหารตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษาและประชาชนชาวจังหวัดลำพูน ร่วมงาน “รวมพลังแห่งความภักดี” เพื่อประกาศความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นผู้นำกล่าวถวายสัตย์ปฎิญาณแสดงความจงรักภักดีเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมกับจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ
สำหรับวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร นับเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน องค์พระบรมธาตุหริภุญชัย สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยหริภุญไชย อายุประมาณ 1,300 ปีเศษ เป็น 1 ใน 8 จอมเจดีย์ของประเทศเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2501 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดลำพูน ทรงสักการะองค์พระบรมธาตุหริภุญชัย พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดลำพูนอีกหลายครั้ง ได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวม 86 โครงการและมีการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีกหลายร้อยโครงการ
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้กล่าวประกาศเจตนารมณ์ของจังหวัดลำพูน เรื่องการจัดตั้ง “กองทุนพ่อของแผ่นดินจังหวัดลำพูนและอำเภอ” เพื่อขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโดยเฉพาะ การสร้างและซ่อมแซมฝายในลำน้ำต่างๆ สำหรับการจัดงาน “รวมพลังแห่งความภักดี” ครั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ทุกจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้านทั่วประเทศและคนไทยทั่วโลก ร่วมกันกล่าวปฏิญาณตนเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และร่วมกันทำความดี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 โดยสามารถทำดีด้วยกาย เช่นการทำความสะอาดศาสนสถาน, การให้บริการทางสาธารณะ, การเยี่ยมคนป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ, การอ่านหนังสือพิมพ์ให้ผู้พิการฟังและการบำเพ็ญกุศลทางศาสนา การทำความดีด้วยวาจา โดยร่วมกันกล่าวปฏิญาณตนร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี การทำความดีด้วยใจ ร่วมกันปฏิบัติสมาธิภาวนาการแผ่เมตตา
ร่วมแสดงความคิดเห็น