ไนท์ซาฟารีแจงปม วิสาหกิจฯฟ้องศาล ยันถูกต้องโปร่งใส

รับคำฟ้อง.........นายเศวต เวียนทองทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากวิสาหกิจชุมชนฯ ซึ่งทาง ศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ไว้พิจารณาแล้ว
รับคำฟ้อง………นายเศวต เวียนทอง ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากวิสาหกิจชุมชนฯ ซึ่งทาง ศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ไว้พิจารณาแล้ว

ศาลปกครองเชียงใหม่รับพิจารณาคดีคำฟ้องจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ที่ยื่นฟ้องคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนครทั้งชุด ต่อศาลปกครองเชียงใหม่ กรณีที่ยกเลิกไม่ให้วิสาหกิจส่งอาหารสัตว์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กลับเปิดประมูลให้บริษัทเอกชนรายเดียวได้ผลประโยชน์แทน ขณะที่ไนท์ซาฟารี ยันทำถูกต้องตามขั้นตอน โดยเปิดให้ทุกฝ่ายประมูลแข่งขันโดยเสรี โปร่งใส ตรวจสอบได้ ลั่นแม้ผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาลฯ

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2559 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเศวต เวียนทอง ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.แม่เหียะ ต.สุเทพ อ.เมือง และ ต.หนองควาย ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ นายเศวต กล่าวว่า ตนได้รับใบแจ้งคำสั่งศาล ที่ ศป 0006.5/ธ1801 ส่งถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ผู้ฟ้องคดี

ตามที่ห้างหุ้นส่วนสามัญ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ยืนฟ้องเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 ต่อศาลปกครองเชียงใหม่ โดยยื่นฟ้องด้วยตนเอง คดีหมายเลขดำที่ 309/2559 ระหว่างหุ้นส่วนสามัญ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ผู้ฟ้องคดี คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้ถูกฟ้องคดีนั้น

ขอแจ้งให้ทราบว่า ศาลปกครองเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2559 และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ผู้แจ้งคำสั่งศาลคือ นางสาววิลัยวรรณ ทุนกาศ พนักงานคดีปกครองชำนาญการ ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 สำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่ กลุ่มสนับสนุนงานคดีและบังคับคดีปกครอง นายเศวต ทนายความ วิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบลแจ้งกับสื่อมวลชน
รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ต.ค.59 ที่ศาลปกครองเชียงใหม่ (ภายในศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายดี จันทคลักษณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.แม่เหียะ ต.สุเทพ อ.เมือง และ ต.หนองควาย ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมนายเศวต เวียนทอง ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล นายอินถา หลวงใจ อดีตกำกันตำบลหนองควาย ฐานะรองประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 4 ตำบล (อยู่ในที่ดินสร้างไนท์ซาฟารี) และตัวแทนชาวบ้านในนามวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ และห้างหุ้นส่วนสามัญ กลุ่มวิสาหกิจผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ยื่นฟ้องคณะกรรมการบริหาร การพัฒนาพิงคนคร เป็นจำเลยที่ 1 และ ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นจำเลยที่ 2 แผนกคดีงานปกครอง สำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่ รับคำฟ้องเป็นคดีดำ เลขที่ 309/2559 ไว้แล้ว
ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้ส่งอาหารให้สัตว์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมานานถึง 10 ปี มีสมาชิกกว่า 500 ครอบครัวทั้งใน 4 ตำบลและสมาชิกเครือข่ายใน 4 จังหวัดภาคเหนือ มี จ.เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย และจ.แม่ฮ่องสอน ที่มีหุ้นกว่า 20,000 หุ้น มีเงินปันผลหุ้น 15 บาท ทุกปี และเสียภาษีให้รัฐบาลมาตลอด 9 ปี ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 10 เท่าที่ดำเนินการมา 9 ปี รายได้ 97 ล้านบาท กระจายรายได้ลงท้องถิ่น 93 ล้านบาท แบ่งมาบริหารจัดการเพียง 4% ถือว่าเป็นการสร้างรายได้โดยคนในท้องถิ่นเพื่อท้องถิ่นโดยแท้จริง บริหารงานโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ต่อมา พ.ศ.2551 มีการเปลี่ยนผู้บริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้พยายามเลิกจ้างวิสาหกิจชุมชนส่งอาหารสัตว์อีก ชาวบ้านและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์จึงได้ฟ้องผู้บริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2551 ต่อมาไกล่เกลี่ยและยอมความจึงถอนฟ้องไนท์ซาฟารี แต่ให้ลงบันทึกว่า ต่อไปไนท์ซาฟารีจะไม่ให้พ่อค้าคนกลางรายอื่นมาส่งอาหารสัตว์อีกต่อไป จะให้เพียงวิสาหกิจชุมชนเพียงรายเดียวส่งอาหารสัตว์เท่านั้น
ล่าสุดมีการการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารใหม่และเปลี่ยนชื่อองค์กรสำนักงานพัฒนาพิงค์นคร (องค์การมหาชน) ที่มีหน้าที่ดูแลไนท์ซาฟารีด้วย ก็มาแจ้งขอยกเลิกสัญญากับทางวิสาหกิจชุมชนในการส่งอาหารสัตว์อีกและให้มีการประมูลแข่งขันกับรายอื่น ทางวิสาหกิจชุมชนเห็นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามคำสั่งศาลปกครอง จึงทำหนังสือคัดค้านให้หยุดการประมูลไปยังผู้บริหารไนท์ซาฟารีไปเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2559 แต่ทางไนท์ซาฟารีก็ยังมีการเปิดประมูลโดยไม่รับฟังข้อคัดค้าน ดำเนินการประมูลเมื่อวันที่ 5 ต.ค.2559 ทางวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบลแสดงจุดยืนจึงไม่ยื่นซองประมูลแต่อย่างใด แต่ทางไนท์ซาฟารีได้จัดประมูลเสร็จสิ้นไปแล้วและผู้ประมูลได้คือ ร้านอำไพ การเกษตร (ตัวแทน CP)ได้ส่งอาหารสัตว์

ทั้งหมดในไนท์ซาฟารีเพียงรายเดียว ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลงความเห็น ว่าเป็นเพียงคนรายเดียวและเป็นพ่อค้าคนกลางด้วย ปัญหาจึงเกิดขึ้นกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ที่มีสมาชิกจำนวน 500 ครอบครัวเดือดร้อน ที่ผลิตอาหารสัตว์แล้วไม่มีสถานที่จำหน่ายจะต้องตกงานขาดรายได้ ซึ่งเห็นว่าการกระทำของผู้บริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไม่จริงใจกับประชาชน ทำให้ประชาชนเดือดร้อน จึงฟ้อง ร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอความกรุณาต่อศาลเพื่อขอได้รับความคุ้มครองจากทางศาลปกครองต่อไป จึงมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น

ด้าน ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าวชี้แจงว่า ตามที่ห้างหุ้นส่วนสามัญ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร และผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต่อศาลปกครองเชียงใหม่ กรณีที่ยกเลิกไม่ให้วิสาหกิจส่งอาหารสัตว์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กลับเปิดประมูลให้บริษัทเอกชนรายเดียวได้ผลประโยชน์แทนนั้น สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีขอชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือ ตามที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ได้ระบุว่าเป็นการยกเลิกไม่ให้วิสาหกิจส่งอาหารสัตว์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ดำเนินการจัดหาอาหารสัตว์ประเภทเนื้อสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ โดยวิธีสอบราคา ตามข้อบังคับที่ถูกต้องขององค์กร ที่เป็นธรรม โปร่งใส และรักษาผลประโยชน์ขององค์กรอย่างสูงสุด โดยได้เชิญผู้ประกอบการที่มีอาชีพเกี่ยวข้องต่างๆ รวมทั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมการจัดหาอาหารสัตว์ ประเภทเนื้อสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ ในครั้งนี้ด้วย

ซึ่งมีผู้ยื่นซองการสอบราคาจำนวน 4 ราย คือ นายมานพ คำสายใย, บริษัท ฟาร์ม 9 ไก่ฟู้ดส์ จำกัด, บริษัท ชนมทัศน์ จำกัด และร้านอำไพการเกษตร แต่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนไม่ได้มายื่นซองสอบราคา และได้ดำเนินการพิจารณาจากผู้เสนอราคาต่ำสุดในแต่ละรายการ ผลปรากฏว่า ร้านอำไพการเกษตร ได้เสนอราคาต่ำสุดในรายการ ปลาทูสดและไข่ไก่เบอร์ 3 และบริษัท ฟาร์ม 9 ไก่ฟู้ดส์ จำกัด ได้เสนอราคาต่ำสุดในรายการ เนื้อน่องไก่ติดสะโพก โครงไก่ เนื้อหมู ตับหมู กระดูก สันหลังหมู และไก่ทั้งตัวไม่ชำแหละ ทำให้ทั้งสองรายเป็นผู้ได้รับเลือกให้จำหน่ายอาหารสัตว์ ประเภทเนื้อสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ แก่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคากลาง จำนวน411,330 บาท อันเป็นผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นแก่องค์กร

ทั้งนี้ ผู้เสนอราคาทั้งหมดไม่ได้เป็นผู้ผลิตโดยตรง เช่นเดียวกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ดังนั้นการดำเนินการจัดหาอาหารสัตว์ ประเภทเนื้อสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ โดยวิธีสอบราคา จึงเป็นวิธีที่ยุติธรรมต่อผู้เสนอราคา โปร่งใส และรักษาผลประโยชน์ขององค์กรมากที่สุด

อย่างไรก็ตามแม้ว่าการดำเนินการจัดหาอาหารสัตว์ ประเภทเนื้อสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะไม่ได้ซื้อจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล แต่สำหรับการดำเนินการจัดหาผัก ผลไม้ หญ้าสด หญ้าแห้ง ต้นข้าวโพด ก็ยังคงเป็นการซื้อจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล เช่นเดิม และหากการรับฟ้องในครั้งนี้ ศาลปกครองมีการพิจารณาอย่างไรทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม

ร่วมแสดงความคิดเห็น