รัฐขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กลุ่มภาคเหนือตอนบน

b-1
“ลุงตู่”ลงพื้นที่เชียงรายหารือ(กรอ.) ส่วนกลางและคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าลงทุนการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันพัฒนาด่านชายแดนรองรับการขยายตัวทางการค้าชายแดน
เมื่อวันที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ส่วนกลางและคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) โดยมีผู้บริหารส่วนราชการ ตัวแทนภาคเอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยที่ประชุมเห็นชอบการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว ไทย ลาว จีนผ่านเส้น R3A โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวในพื้นที่เขตล้านนาเพิ่มขึ้น ร้อยละ 20 ต่อปี
ทั้งนี้ ด้านการค้าการลงทุน ได้ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาด่านชายแดนสากลห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน เพื่อการพัฒนาด้านชายแดนสากลห้วยโกร๋น ให้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทางการค้า การลงทุน ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้มาตรฐานสากล รองรับการขยายตัวทางการค้าชายแดน
อีกทั้งการยกระดับจุดผ่อนปรนการค้า ด้านบ้านฮวก อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เพื่อยกระดับจุดผ่อนปรนบ้านฮวก ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร และเพื่อเพิ่มช่องทาง ในการขนส่งสินค้าไทยจำนวนหลากหลายมากขึ้นไปยัง สปป.ลาว รวมทั้งเพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนของประเทศไทยสู่ภูมิภาค ลุ่มแม่น้ำโขงและจีนตอนใต้ ที่ประชุมเห็นชอบให้เร่งรัดปรับปรุง พร้อมพัฒนาทั้ง 2 ด่านตามที่หอการจังหวัดได้นำเสนอ โดยเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเป็นรูปธรรม สำหรับการสร้างถนนจุดผ่อนปรนการค้า ด้านบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 ให้สอดคล้องกับการพัฒนาจุดผ่านแดนทางฝั่ง สปป.ลาว
นอกจากนี้ การจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 2 โดยขอรับสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมฯ จำนวน 5,000,000 บาท เพื่อสร้างฐานข้อมูลโครงการของอุตสาหกรรมในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ที่ประชุมเห็นชอบสนับสนุนงบประมาณที่ตามเสนอขอรับการสนับสนุน โดยมอบหมายให้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นหน่วยงานในการจัดทำแผนแม่บทฯ พร้อมมอบหมายให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดจัดทำความเชื่อมโยง ชูจุดเด่นด้านวัตถุดิบเรื่องอาหารของแต่ละจังหวัด พร้อมกับให้ต่อยอดโครงการพระราชดำริในพื้นที่ให้ขยายต่อไป ด้านโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ได้แก่ การเร่งรัดขยายทางหลวงหมายเลข 103 (อ.ร้องกวาง จ.แพร่-อ.งาว จ.ลำปาง) โดยขอให้สนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทำให้ประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางสัญจรไปมาอย่างสะดวก ลดระยะเวลาในการเดินทาง รวมถึงลดความแออัดของการจราจรในเส้นทางหลวงกรุงเทพ-ลำปาง-เชียงใหม่ ที่ประชุมเห็นชอบให้เร่งรัดดำเนินการก่อสร้างถนน พร้อมสนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้แล้วเสร็จภายในปี 2562
ด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำจังหวัดแพร่ โดยขอรับงบประมาณในการสนับสนุนโครงการก่อสร้างและปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรจังหวัดแพร่ จำนวน 244 โครงการ งบประมาณรวมทั้งสิ้น 68,344,800 ล้านบาท ที่ประชุมเห็นชอบสนับสนุนงบประมาณและการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนการบริหารจัดการให้สามารถดำเนินการ เน้นการดำเนินโครงการต้องแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจำเป็นต้องนำปัญหา อุปสรรคที่ผ่านมาของประเทศมาดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปข้างหน้าได้ โดยจะมองจากศักยภาพภายในสู่ภายนอก ผ่านการทำงานจากข้างบนลงข้างล่าง และจากข้างล่างขึ้นข้างบน ซึ่งรัฐบาลและประชาชนต้องร่วมมือกันทำงานภายใต้รูปแบบของประชารัฐ โดยรัฐบาลพร้อมเสริมสร้างศักยภาพ และทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ประชาชนมีความเข้มแข็ง นอกจากนี้จะต้องมีการสร้างเครือข่ายพร้อมกับการบูรณาการการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อดูแลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรง

ร่วมแสดงความคิดเห็น