ลดปัญหาหมอกควัน ที่จะเกิดขึ้นทุกปี ซึ่งปีนี้ทางชาวอ.เชียงดาว ได้รวมใจกันคลิกออฟลดการเผาป่าและการเกิดหมอกควัน โดยมีนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นประธานเปิดรณรงค์การไถกลบแทนการเผาป่าและเผาขยะหรือเศษวัสดุทางการเกษตร วัชพืช โครงการกิจกรรม Kick off โดยลดปริมาณเชื้อเพลิงป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ซึ่ง เป็นพื้นที่มีการลักลอบเผาป่าอันดับต้นๆของจังหวัดเชียงใหม่ ที่บ้านห้วยจะค่าน หมู่ที่ 9 ตำบล ปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
โดยมีนายสราวุฒิ วรพงศ์ นายอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ได้นำมวลชน เยาวชน ส่วนราชการ สื่อมวลชน ได้เข้ามาร่วมในการรณรงค์ปลุกจิตสำนึกในการไม่เผา เพื่อลดปัญหาหมอกควัน ซึ่งเป็นปัญหาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่มีปัญหาหมอกควันมากที่สุดในประเทศไทย ในปีที่ผ่านมาทำให้จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นพื้นที่ทางการท่องเที่ยวได้มีนักท่องเที่ยวลดลงและเสียรายได้ไปหลายร้อยล้านบาท และมีปัญหากับการบินในจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องนำเครื่องไปลงยังจังหวัดใกล้เคียง
และยังส่งผลเสียหายให้กับการเกษตรซึ่งเกษตรกรได้ทำการเผาเศษวัชพืช และตอซังข้าว ทำให้สภาพทางอินทรีย์ของดินเสื่อมสภาพและต้องเสียเงินในการทำการปรับปรุงดินเพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรได้ผล ซึ่งทางส่วนราชการและเอกชน ประชาชนต้องมีความร่วมมืออย่างจริงจังและในเชิงรุก ให้ความรู้กับประชาชนและเกษตรกร จัดวางแผนทำแนวกันไฟในพื้นที่ป่าโดยในช่วงเดือนธันวาคม 2559 จะต้องบูรณาการจัดทำแนวกันไฟป่า ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ และในช่วงเดือนมกราคม 2560 ต้องลดการเผา 100%
ทางนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวว่าที่สำคัญคือการร่วมมือกันป้องกันทั้งประชาชนและส่วนราชการซึ่งจะได้รับผลที่ดีที่สุด และหาทางนำเอาวัสดุเศษพืชต่างๆไปทำประโยชน์ ซึ่งทางนักเรียนโรงเรียนมิตรมวลชนเชียงใหม่ บ้านปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเอาเศษวัชพืชไปทำถ่านอัดแท่งจำหน่ายเป็นสิ้นค้า ดับกลิ่น และถ่านเชื้อเพลิง ในส่วนของไฟป่าที่มีพื้นที่ทำการป้องกันไฟป่านั้นได้ทำการขยายชุดดับไฟป่าจำนวน 6 ชุดปฏิบัติการ และทาง พันโท พัสกร เกษสมบูรณ์ เสธนาธิการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 กองกำลังผาเมือง แจ้งว่าจะได้นำทหารกองกำลังผาเมืองเข้าช่วยเหลือชุดดับไฟป่าเพื่อจะได้ปฏิบัติงานกันได้ดีและสัมฤทธิผลมากขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล
ท.ลุงเกษตร
ร่วมแสดงความคิดเห็น