สั่งล้างบาง ละเมิดลิขสิทธิ์ เน้นเมืองท่องเที่ยว

กอ.รมน. ลุยจับสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โฟกัสพื้นที่ละเมิดรุนแรง เน้นเมืองท่องเที่ยว พร้อมสกัดนำเข้าด่านใหญ่ชายแดนสระแก้ว ขู่ต่างชาติร่วมขบวนการขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศ ทุกคดีส่ง ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน

นายทศพล ทังสุบุตร รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา รักษาการอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ในต้นเดือนธันวาคมจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อรายงานผลการดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาระยะแรกตามที่กำหนดเป้าหมายเร่งด่วนตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม2559 ก่อนที่จะรายงานต่อคณะกรรมการทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ ในการประชุมครั้งต่อไปภายในกลางเดือนธันวาคมนี้

“การปราบปรามการละเมิดตามคำสั่งของท่านประวิตรมีนโยบายให้เตือนและให้ความรู้ก่อนแต่หากว่าทำผิดก็ต้องจับ ไม่ใช่อะลุ่มอล่วย กรมจัดทำใบปลิว/เอกสารแจกไปยังผู้ประกอบการให้ทราบว่า การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามีความผิดและมีโทษอย่างไรบ้าง และให้ตระหนักว่า สินค้าปลอมบางชนิด เช่น ยา หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ซื้อมาใช้แล้วจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้อย่างไร นอกจากนี้ยังจัดประชาสัมพันธ์ร่วมกับทางการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เน้นไปที่เมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีการจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดจำนวนมาก”

ด้านการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญานั้น คณะอนุกรรมการได้มอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นหน่วยงานหลักจัดทีมและประสานการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ มีเป้าหมายว่าจะต้องลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และต้องไม่กลับมาละเมิดซ้ำอีก โดยแนวทางดำเนินการประกอบด้วย

1) มอบให้กรมศุลกากรดำเนินการสกัดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ผลิตจากต่างประเทศไม่ให้ผ่านเข้ามาบริเวณด่านชายแดนโดยใช้เครื่อง X-Ray ตรวจตู้คอนเทนเนอร์ ในช่วงอย่างยิ่งด่านชายแดนบริเวณ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีปัญหารุนแรงที่สุด

2) กรมได้ประสานเจ้าของสิทธิ์จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบสินค้าละเมิดให้กับทางเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ทหารบก ทหารเรือไปแล้ว พร้อมทั้งจัดทำคู่มือรายชื่อเจ้าของสิทธิ์ เพื่อให้ทาง กอ.รมน.ได้จัดทีมร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ตามระดับความรุนแรงของปัญหา แต่เป็นการลงพื้นที่แบบไม่แจ้งล่วงหน้า โดยในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้จะลงไปในจุดที่มีการละเมิดอย่างแพร่หลาย พร้อมจะทยอยลงพื้นที่จุดสีต่าง ๆ (สีแดงพื้นที่เป้าหมายการปราบปราม-สีเหลือง พื้นที่ทั่วไปที่ต้องเฝ้าระวังไม่ให้มีการขายสินค้าละเมิดอีก)

3) มาตรการใหม่ ประสานไปยังสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) หากมีการจับกุมผู้ขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมจะถูกขึ้นแบล็กลิสต์และส่งกลับประเทศและห้ามเข้าประเทศไทยอีก

4) เจ้าหน้าที่จะเน้นการจับกุมแหล่งผลิตรายใหญ่และใช้มาตรการทางภาษี-มาตรการยึดทรัพย์ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อย่างจริงจัง โดยกำหนดขั้นตอนว่าหลังจากจับกุมผู้ผลิตสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ทางตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ต้องแจ้งไปที่ ปปง. เพื่อสืบที่มาของเงินว่ามีที่มาจากที่ไหน หากมาจากการกระทำผิดกฎหมายและไม่สามารถอธิบายได้ ปปง.จะมีการยึดทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมาทราบตอนนี้มีการยึดทรัพย์ไปแล้ว 100 ล้านบาท

นายทศพลกล่าวว่า ปัญหาการละเมิดทางอินเทอร์เน็ตจัดเป็นสิ่งที่คณะอนุกรรมการให้ความสำคัญมาก โดยกรมร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะดำเนินการในกรณีที่เจ้าของสิทธิ์ตรวจสอบพบว่า มีการละเมิดในอินเทอร์เน็ตและแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว อนุญาตให้เจ้าของสิทธิ์รวบรวมพยานหลักฐานส่ง กสทช. เพื่อให้พิจารณาระงับการให้ใบอนุญาตผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต/ใบผู้ประกอบการเคเบิลทีวีได้ทันที จากเดิมถ้าศาลตัดสินว่าเผยแพร่งานละเมิดแล้ว จึงจะถึงเพิกถอน/ระงับใบอนุญาตได้ แต่ทาง กสทช.จะต้องรับแจ้งและให้โอกาสชี้แจงและแสดงหลักฐานก่อน หากไม่ทำอาจจะเป็นเหตุให้พักใช้ได้เลย

นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการในเรื่องของ “Media Box” หรือกล่องปลอม ซึ่งทาง กสทช.รับว่าจะเข้าไปดำเนินการ ส่งผลให้ปัญหานี้ลดลงจากเดิมไปอย่างมากแต่หากไม่ใช่ช่องทางนี้ ทางกรมได้พยายามบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ หากสินค้าละเมิดบนเว็บให้ Take Down เฉพาะของละเมิดออกมาก่อนได้เช่นกัน

“กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะทำหนังสือให้ความเห็นกรณีการแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของ สนช. ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีสามารถที่จะร้องขอต่อศาล หากพบการกระทำความผิดที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศชาติ หรือพบการกระทำความผิดที่มีความผิดทางอาญาด้วย เพราะคดีด้านทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภทที่มีโทษตั้งแต่ “ปรับ จำคุก ริบทรัพย์สิน” ก็ถือเป็นคดีอาญาทั้งหมด”

ร่วมแสดงความคิดเห็น