โลกโมฬีสวดข้ามศก พร้อมหลายวัดสำคัญทั่วเมือง อานิสงส์แรง-ถวายในหลวง ตักบาตรเสริมมงคลรับปีระกา

วัดโลกโมฬี เชียงใหม่เตรียมจัดกิจกรรมยิ่งใหญ่สวดมนต์ข้ามปี “มหาสันติงหลวง” ตามแบบโบราณล้านนา เพื่อสงบเคราะห์กรรม ปัดเป่าเหตุร้ายให้ชาติบ้านเมืองสงบสุข ถวายเป็น พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวง รัชกาลที่ 9 และถวายพระพรในหลวง ร.10 เนื่องในปีมหามงคล เชิญชวนศรัทธาประชาชนร่วมพิธี พร้อมทำบุญตักบาตรเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต รับศักราชใหม่ 2560 คาดศรัทธาชาวพุทธ เยาวชน วัยรุ่นหนุ่มสาว รวมถึงนักท่องเที่ยว ร่วมทำบุญล้นหลามเหมือนทุกปี ขณะที่วัดสำคัญทั่วเมืองเชียงใหม่เตรียมจัดพิธีสวดข้ามศกยิ่งใหญ่

พระครูไพบูลเจติยานุรักษ์ ดร. ประธานสงฆ์วัดโลกโมฬี จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในปีนี้พระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอย สุเทพราชวรวิหาร ในฐานะองค์อุปถัมภ์วัดโลกโมฬี ได้เห็นชอบให้ทางวัดโลกโมฬีจัดกิจกรรม สวดมนต์ข้ามปี “มหาสันติงหลวง” อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวง รัชกาลที่ 9 และสวดถวายพระพรในหลวง ร.10 เนื่องในปีมหามงคล พร้อมเชิญชวนศรัทธาประชาชน ทุกภาคส่วน รวมถึงนักท่องเที่ยวร่วมกันทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต ต้อนรับศักราชใหม่ ปี 2560

โดยมีกำหนดการคือ วันที่ 31 ธ.ค.59 เริ่มเวลา 19.09 น. พิธีไหว้พระสวดมนต์เย็นสวดมนต์ 7 ตำนาน สวดมนต์ 12 ตำนานสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร เวลา 21.39 น. สวดอุปปาตะสันติ “มหาสันติงหลวง” เวลา 00.00 น. รับน้ำพุทธมนต์ เสร็จสิ้นพิธีในเวลาประมาณ 01.09 น. วันที่ 1 ม.ค. 60 เวลา 07.09 น. ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรรับศักราชใหม่
พระครูไพบูลเจติยานุรักษ์ ดร. เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อชักชวนให้คนในครอบครัวเข้าวัดปฏิบัติธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงค์ทุกพระองค์ เพื่ออุทิศถวายแด่พระนางจิรประภามหาเทวี และบูรพมหากษัตริย์ล้านนาทุกๆ พระองค์ เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา และเผยแพร่พุทธธรรม นอกจากนี้ยังเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัวและชาติบ้านเมืองด้วย ซึ่งกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ที่วัดโลกโมฬจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จะมีศรัทธาประชาชน เยาวชน วัยรุ่นคนหนุ่มสาวร่วมพิธีอย่างล้นหลาม เพราะถือว่าเป็นวัดแรกๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ที่จัดพิธีสวดแบบนี้ขึ้น และที่สำคัญในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานของสิ่งศักสิทธิ์ที่ประชาชนคนทั่วไปด้วย อาทิ องค์พระนเรศวร พระนางจิรประภามหาเทวี (เทพแห่งความรัก) ศาลพระพรม เจ้าแม่กวนอิพันมือ ฯลฯ ในปีนี้ก็ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมพิธีตามวันเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

สำหรับบทสวดมนต์ อุปปาตะสันติหรือ “มหาสันติงหลวง” ที่จะใช้ในพิธีสวดมนต์ข้ามปีครั้งนี้ “อุปปาตะสันติงหลวง” ทางเมืองเหนือเรียกว่า มหาสันติงหลวง แปลว่า บทสวดเพื่อสงบเคราะห์กรรม สวดเพื่อสงบอันตราย สวดเพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือนคัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณกรรมภาษาบาลีของล้านนาไทย แต่งโดยพระมหามังคละสีละวังสะ พระเถระนักปราชญ์ชาวเชียงใหม่รูปหนึ่งในสมัยของพระเจ้าสิริ ธรรมจักกวัตติลกราชาธิราช หรือพระเจ้าติโลกราช รัชกาลที่ 11 แห่งราชวงค์มังรายระหว่างปี 1985-2030 เนื้อหาเป็นคาถาล้วนจำนวน 271 คาถา จัดเข้าในหนังสือประเภท เชียงใหม่คันถะ

คัมภีร์นี้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในหมู่ชนชาวล้านนามาแต่โบราณกาล ทั้งพระสงฆ์ สามเณร และชาวบ้าน พากันสวดและฟังอุปปาตะสันติ เพื่อกลับร้าย กลายเป็นดี มีคำเล่าว่าเมื่อสมัยที่ท่านแต่ง อุปปาตะสันตินั้น ที่เมืองเชียงใหม่มีโจรผู้ร้ายและคนอันธพาลชุกชุมผิดปกติ มีเหตุร้ายและสิ่งกระทบกระเทือนอยู่เสมอ พระมหาเถระสีละวังสะ จึงให้พระสงฆ์ สามเณรและประชาชน พากันสวดและฟังอุปปาตะสันติ เพื่อสงบเหตุร้ายทั้งมวลที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองกลับร้ายให้กลายเป็นดี ต่อมา ชาวพม่ามีความเลื่อมใสนำคัมภีร์นี้เข้าไปในประเทศพม่า ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์และประชาชนถือว่าคัมภีร์อุปปาตะสันติมีความศักดิ์สิทธิ์มาก พากันนิยมสวดและนิยมฟังกันอย่างกว้างขวาง โดยนำเข้าไปที่เมืองอังวะก่อน แล้วจึงแพร่หลายไปทั่วประเทศพม่า เมื่อ 500 ปีที่ล่วงมาแล้ว

อุปปาตะสันติคาถา เป็นบทสวดอย่างพิศดาร ท่านจึงกล่าวพระนามของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ไว้ อย่างครบถ้วน ทั้งที่มีมาในอนาคต ในปัจจุบันและจักมีมาในอนาคต รวมตลอดไปจนถึงท่านที่ทรงคุณ ทรงอำนาจ ทรงฤทธิ์ ในทางที่ดีอื่นๆ เช่น เทวดา อินทร์ พรหม ยักษ์นาค คนธรรพ์ ครุฑ และอสูร เป็นต้น เพื่อขอความเป็นมงคล ความสงบ ความสวัสดีความไม่มีโรค ชัยชนะ และอายุยืน รวมทั้งขอให้ท่านคุ้มครองให้พ้นจากเหตุเภทภัยนานัปการ อันจะบังเกิดขึ้นในการทุกเมื่อคัมภีร์อุปปาตะสันติเป็นคัมภีร์ของไทย แต่ต้นฉบับได้จากเมืองไทยไปอยู่ในเมืองพม่าเสียนานจนแทบกล่าวได้ว่าคนไทยสมัยหลังๆ นี้ไม่มีใครรู้จัก ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อคัมภีร์นี้

แต่บัดนี้เป็นที่โสมนัสดียิ่งที่ เจ้าคุณธรรมคุณาภรณ์ (เช้า ฐิตะ ปัญโญ) ป.ธ. 9 วัดมหาโพธาราม ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ท่านได้ชำระคัมภีร์นี้เป็นภาษาบาลีอักษรไทย เพื่อความสะดวกแก่ผู้อ่านที่ไม่สันทัดภาษาบาลี โดยได้ต้นฉบับภาษาบาลีอักษรพม่าจากท่านพระอาจารย์ภัททันตะ ธัมมานันมหาเถระ อัครมหาบัณฑิตแห่งวัดท่ามะโอ จังหวัดลำปาง นับว่าเป็นการนำคัมภีร์ของล้านนาไทยโบราณกลับคืนมาสู่ประเทศไทย ให้ชาวไทยในยุคปัจจุบันได้รู้จัก ได้ศึกษา ได้สวดได้ฟัง ให้เกิดประโยชน์ทางสันติความสงบสุขอันยิ่งใหญ่ให้แก่แผ่นดิน เพื่อความสงบระงับจากภัยพิบัติทั้งปวง และเพื่อความสงบระงับจากภัยพิบัติทั้งปวง และเพื่อความเป็น สิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว หมู่คณะชาวไทยและชาวโลกทั้งมวล

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ใช่ช่วงขึ้นปีใหม่ 2559 นี้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2560 และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ครอบครัวและสังคม ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 22.30 น.เป็นต้นไป โดยกำหนดให้วัดสำคัญ 4 วัด เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมได้ ได้แก่ วัดพระสิงห์วรวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดสวนดอก พระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงใหม่ และวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ และนอกจากพระอารามหลวงดังกล่าวแล้ว วัดเจ้าคณะอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ทุกอำเภอยังได้ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสต้อนรับปีใหม่ 2559 ด้วยเช่นกัน

จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมอันเป็นมงคลนี้ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป ในวัดที่จัดกิจกรรมดังกล่ามข้างต้นโดยพร้อมเพรียงกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น