เดินหน้าสร้าง มูลค่าเพิ่มให้ข้าวไทย


กรมส่งเสริมสหกรณ์ เผยผลการดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรยกระดับราคาข้าว พร้อมคัดสรรข้าวสารที่มีคุณภาพและปลอดภัยจัดกระเช้าของขวัญเพื่อจำหน่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยผ่านกระบวนการแปรรูปที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค พร้อมเปิดจุดจำหน่ายทั่วประเทศ ชี้ข้าวหอมมะลิขายดีสุด เนื่องจากได้รับความนิยม
นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อยกระดับราคาข้าวเปลือกและข้าวสารตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำในฤดูกาลผลิต 2559/60 ผ่านกลไก สถาบันเกษตรกร โดยรัฐบาลได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม และช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกที่ปลูกข้าวให้ได้รับรายได้ที่เป็นธรรมจากการผลิตข้าว นอกจากนั้นยังเพิ่มปริมาณการแปรรูปข้าวสารในระบบสหกรณ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลผลิตข้าวเพื่อการจำหน่ายและการบริโภค ผ่านโครงการข้าวสารสหกรณ์ช่วยชาวนา โดยสนับสนุนให้สหกรณ์รวบรวมข้าวเปลือกในฤดูกาลจากสมาชิก และนำมาเข้าสู่กระบวนการแปรรูป โดยผ่านโรงสีของสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์ผลิตข้าวสารจำหน่ายเชิงพาณิชย์ โดยมีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ และกระจายข้าวสารสหกรณ์เพื่อไปเปิดจุดจำหน่ายแก่ผู้บริโภค โดยเริ่มจากในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนได้ให้ความสนใจและอุดหนุนข้าวสารสหกรณ์เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีอีกหลายหน่วยงานติดต่อเพื่อสั่งซื้อข้าวสารอีกจำนวนมาก และมีแผนจะกระจายข้าวสารสหกรณ์ให้ถึงมือผู้บริโภคในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศจนถึงเดือนเมษายน 2560
ด้าน ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า จากการรวบรวมผลการดำเนินงานช่วยเหลือเกษตรกรระบายผลผลิตข้าวผ่านกลไกสหกรณ์ในฤดูกาลผลิต 2559/60 แบ่งเป็นการรวบรวมข้าวเปลือกโดย สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเปิดจุดรับซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 59 มีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 139 แห่ง ในพื้นที่ 26 จังหวัด รวบรวมข้าวเปลือก ทั้งข้าวขาว ข้าวหอมปทุม ข้าวหอมมะลิขนาดความชื้นไม่เกิน 15% ข้าวหอมมะลิขนาดความชื้นเกิน 15% และข้าวเหนียว จำนวนทั้งสิ้น 299,414.10 ตัน มูลค่า 2,158.63 ล้านบาท และจะมีการเปิดจุดรับซื้อไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาล ซึ่งการที่สหกรณ์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร ส่งผลให้ราคารับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรขยับสูงขึ้นอยู่ที่ 11,000 บาท/ตัน โดยได้ดำเนินการควบคู่กับการจัดจำหน่ายและกระจายข้าวสารสหกรณ์ และมีการเปิดจุดจำหน่ายขึ้นที่หน่วยงานในกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ 12 แห่ง สำนักงานสหกรณ์จังหวัด 77 แห่ง หน่วยงานภายนอกกระทรวงเกษตรและภาคเอกชน 16 แห่ง และเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ จากการเปิดจุดจำหน่ายข้าวสารสหกรณ์ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นมา มียอดจำหน่ายรวม 3,583.442 ตัน มูลค่า 114,697,850 บาท โดยส่วนใหญ่จะเน้นจำหน่ายข้าวหอมมะลิ ซึ่งมียอดจำหน่ายสูงสุด
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ผู้บริโภคให้ความสนใจในการซื้อข้าวเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ข้าวอินทรีย์ ข้าวกล้อง ข้าวหอมนิล ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด และข้าวลืมผัว โดยสหกรณ์ต่าง ๆ ได้ส่งเสริมให้สมาชิกผลิตข้าวเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน และในช่วงใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่นี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้คัดสรรข้าวสารชนิดต่าง ๆ ที่ผ่านกระบวนการแปรรูปที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคมาจัดลงกระเช้าของขวัญเนื่องในเทศกาลปีใหม่ หากประชาชนหรือหน่วยงานใดสนใจจะสั่งซื้อกระเช้าของขวัญข้าวสารสหกรณ์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ท่าน้ำเทเวศร์ หรือโทร.02280 7506,02281 3095 ต่อ 157 และ 062-6107842 ดูรายละเอียดได้ที่ www.cpd.go.th

ร่วมแสดงความคิดเห็น