พบเชฟไทยขาดแคลน ยิ่งช่วงเทศกาลหายาก


ส.เชฟประเทศไทยชี้ความต้องการบุคลากรพุ่งสูง เนื่องจากอาหารไทยได้รับความนิยม ชี้บางช่วงอย่างเทศกาลค่อนข้างหายาก เผยผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มกว่าเดิม คาดร้านอาหารยังเติบโตได้
นายธวัชชัย เงยเจริญ กรรมการบริหาร สมาคมเชฟประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาอาชีพเชฟมีคนสนใจกันมากขึ้น เพราะอาหารไทยเป็นที่นิยมกว่าเดิม ไม่ว่าจะทั้งในส่วนของกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านหรืออาเซียนและยุโรป ก็ค่อนข้างชื่นชอบอาหารไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคุณภาพและยังดีต่อสุขภาพ ความต้องการบุคลากรดังกล่าวจึงสูง ทั้งยังพบว่าบางช่วงอย่างเทศกาลยังค่อนข้างหายากอีกด้วย
“ความต้องการของตลาดมีมาสักระยะหนึ่งแล้ว ส่วนมากช่วงปลายปีจะพบว่าร้านอาหารต่างก็ต้องการหาเชฟกันมากขึ้น บางครั้งอาจมีการเกิดชิงตัวกันขึ้น คาดการณ์ว่าในปีนี้สถานการณ์ก็ยังจะเป็นไปในลักษณะดังกล่าวอยู่อีก และจากความนิยมของอาชีพนี้เอง ยังทำให้เงินเดือนปรับตัวสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนเช่นเดียวกัน” นายธวัชชัยกล่าว
สำหรับภาพรวมร้านอาหาร หากมองเรื่องของเศรษฐกิจว่ามีผลกระทบหรือไม่นั้น คงไม่ใช่ปัจจัยเดียว เพราะหากผู้ประกอบการายใดมีทำเลที่ตั้งของร้านที่ดีแล้วก็จะได้รับผลกระทบน้อยกว่ารายอื่น มองว่าเรื่องของอาหารยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค แต่ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ต้องมีมาตรฐานทางด้านคุณภาพ และรสชาติของอาหารที่อร่อย จึงจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าหรือมีผลตอบรับดี หากไม่ยอมปรับปรุงก็คงอยู่ไม่ได้ รวมถึงการทำตลาดก็มีส่วนที่ทำให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จ
นายธีรวีร์ ดิษยะไชยพงษ์ ผู้ก่อตั้งสถาบันสอนทำอาหาร “เชฟจากัวร์ สตูดิโอ คุกเคอรี่แอนด์ แคทเทอริ่ง” เปิดเผยว่า การที่อาชีพเชฟกำลังได้รับความนิยม คงเป็นเพราะสามารถนำไปต่อยอดเป็นที่ปรึกษาร้านอาหารชื่อดังต่างๆ ได้ ทั้งยังมีผลตอบแทนที่สูง แม้ว่าจะเป็นผู้ที่จบการศึกษาใหม่ก็อาจมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 1-1.5 หมื่นบาท ซึ่งหากประสบการณ์ 2-3 ปี จะมีรายได้ 1.5-2.5 หมื่นบาท ส่วนตำแหน่งหัวหน้างานมีรายได้ประมาณเดือนละ 2.5-4 หมื่นบาท, ตำแหน่งรองเชฟ อยู่ที่ 4-6 หมื่นบาท ขณะที่เชฟระดับโรงแรม 3-4 ดาว อยู่ที่ 5-8 หมื่นบาท และเชฟระดับโรงแรม 5 ดาว อัตราค่าจ้างสูงถึง 8 หมื่น จนถึง 2 แสนบาท.

ร่วมแสดงความคิดเห็น