สวนสัตว์เชียงใหม่ ปล่อยแพนด้าวิ่งเพ่นพ่าน อิสระแล้ว

สวนสัตว์เชียงใหม่ปล่อยหมีแพนด้า ออกใช้ชีวิตอย่างอิสระ ท่ามกลางธรรมชาติและลมหนาว ในส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง

ช่วงเช้าวันที่ 10 ม.ค.59 นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผช.ผอ. และนายไมตรี อินโปธา หน.ฝ่ายอนุรักษ์วิจัยและสุขภาพสัตว์ ร่วมกันตรวจและสังเกตการณ์การปล่อย “หลินฮุ่ย” หมีแพนด้าตัวเมีย ออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง หรือ สวนหลังบ้าน เพื่อให้ชีวิตในช่วงกลางคืน ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นของช่วงฤดูหนาว และสภาพแวดล้อมที่มีการจัดจำลองให้ใกล้เคียงแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติ ของหมีแพนด้ามากที่สุด

โดยการปล่อยหมีแพนด้าออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง ในช่วงฤดูหนาวนี้นั้น มีการสลับกันให้ “ช่วงช่วง” หมีแพนด้าตัวผู้ ออกมาในช่วงเช้าเรื่อยไปจนกว่าอุณหภูมิจะ สูงกว่า 25 องศา ส่วน“หลินฮุ่ย” จะปล่อยออกมาในช่วงเย็นหรือค่ำที่อุณหภูมิ ต่ำกว่า 25 องศา แล้วให้ใช้ชีวิตอย่างอิสระอยู่ในส่วนจัดแสดงกลางแจ้งไปตลอดทั้งคืน หรือแล้วแต่ความพอใจของ “หลินฮุ่ย”

ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวที่ทำต่อเนื่องมา ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.59 เพื่อให้หมีแพนด้าทั้งคู่ได้เปลี่ยนบรรยากาศคลายเครียด และออกกำลังกายในสภาพแวดล้อม ที่ใกล้เคียงแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะย่างเข้าสู่ช่วงฤดูผสมพันธุ์ของหมีแพนด้า ที่ตามปกติในธรรมชาติจะอยู่ในช่วงระหว่าง ก.พ.-เม.ย.

ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการดำเนินการตลอดช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่าหมีแพนด้าทั้งคู่ชื่นชอบและมีการตอบสนองที่ดี กับการที่ได้ออกมาใช้ชีวิตในส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีการจัดให้ใกล้เคียงแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติ และอากาศที่หนาวเย็นในช่วงนี้ โดย “ช่วงช่วง” จะถูกปล่อยออกมาในช่วงเช้าตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนกว่าอุณหภูมิจะสูงเกิน 25 องศา ส่วน “หลินฮุ่ย” จะปล่อยออกมาในช่วงค่ำและให้อยู่ไปได้ตลอดทั้งคืนตามความพอใจ โดยมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

สำหรับสุขภาพของหมีแพนด้าทั้งสองตัวนั้น นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า แข็งแรงสมบูรณ์ดีทั้งสองตัว ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยในส่วนของ “หลินฮุ่ย” นั้น ช่วงปลายเดือน ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ทางทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เบื้องต้นพบว่าร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี โดยเฉพาะระบบสืบพันธุ์เป็นปกติดีทุกอย่าง และมีความพร้อมสำหรับฤดูผสมพันธุ์ในปีนี้ที่ใกล้จะมาถึง ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่างคาดหวังว่าในปีนี้ จะประสบความสำเร็จในการผสมพันธุ์ จนได้ลูกหมีแพนด้าอีกตัวหนึ่งที่เกิดในประเทศไทย

ร่วมแสดงความคิดเห็น