ระทึก! เพลิงไหม้กุฏิสำนักสงฆ์ วัดแม่สายนาเลา อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ วอดวายทั้งหลัง มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท

เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 13 ม.ค.60 โดยทาง พ.ต.ต.วารินทร์ เล็นคำ พนักงานสอบสวน สภ.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้กุฏิสำนักสงฆ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดแม่สายนาเลา ม.9 อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ หลังทราบเรื่องจึงได้รุดเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้แจ้งประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.โหล่งขอด และ ทต.แม่ปั๋ง ระดมรถดับเพลิงในพื้นที่เข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วน เนื่องจากทราบว่าเพลิงได้ลุกไหม้อย่างหนัก ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาถึงยังบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น พบกลุ่มควันไฟโพยพุ่งและมีเปลวเพลิงมองเห็นได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันพบกลุ่มชาวบ้านรวมถึงพระสงฆ์กำลังช่วยกันดับเพลิงอย่างจ้าละหวัน ซึ่งจุดที่เกิดเพลิงไหม้นั้นเป็นกุฏิใหญ่สร้างจากได้ และมีโครงสร้างเป็นปูนบางส่วน กินพื้นที่กว่า 40 ตารางเมตร โดยเพลิงได้ลุกไหม้มาจากด้านในของกุฏิอย่างหนัก จนทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมรถบรรทุกน้ำต่อสายยางเข้าฉีดควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง และใช้เวลาช่วยกันนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้างและเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติในที่สุด

โดยในเวลาต่อมาภายหลังจากเพลิงสงบ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบความเสียหายของจุดเกิดเหตุ พบว่าทรัพย์สินที่อยู่ภายในตัวกุฏิ รวมถึงตัวกุฏิหลังดังกล่าวถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยจากการประเมินค่าความเสียหายคร่าวๆ ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท เนื่องจากตัวกุฏิก่อสร้างด้วยไม้ ประกอบกับมีทรัพย์สินที่อยู่ภายในหลายรายการด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน เพื่อรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ และจะได้ดำเนินการประสานให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป

ขณะเดียวกัน จากการสอบถามพยานซึ่งเป็นชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่า ขณะกำลังอยู่ในระแวกบ้านได้สังเกตุเห็นกลุ่มควันโพยพุ่งออกมาจากตัวกุฏิภายในวัด และเห็นประกายเพลิงสีส้ม จึงได้รีบวิ่งเข้าไปดูก็พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในตัวกุฏิ จึงได้รีบแจ้งกับทางเจ้าอาวาส ซึ่งขณะนั้นได้อาศัยอยู่ในกุฏิอีกจุดหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากกุฏิหลังใหญ่ ก่อนจะได้แจ้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมทั้งเรียกข้อความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงให้ช่วยกันนำน้ำเข้ามาดับ แต่เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำรถดับเพลิงมาช่วยเหลือ แต่เพลิงก็ได้เผาผลาญสร้างความเสียหายแล้วทั้งหมด อย่างไรก็ตามสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดเพลิงไหม้นั้นต้องรอการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น