เกษตรอินทรีย์ที่ตำบลชมพู สารภี

เกษตรอินทรีย์ เป็นการทำการเกษตรด้วยหลักธรรมชาติบนพื้นที่การเกษตร ที่ไม่มีสารเคมีตกค้างและหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของสารเคมีทั้งทางดิน ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ของดินและความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศน์ รวมถึงฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้กลับคืนสู่สมดุลธรรมชาติ โดยไม่ใช้สารเคมี สารสังเคราะห์ หรือสิ่งที่ได้จากการตัดต่อพันธุกรรม แนวทางของเกษตรอินทรีย์เป็นการอนุรักษ์ดินและระบบนิเวศน์ โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติและเทคโนโลยีที่เหมาะสม ในการปลูกพืชจะใช้ปุ๋ยหมักแทนปุ๋ยเคมี กำจัดวัชพืชโดยใช้แรงงานคน ปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อให้เกิดความหลากหลาย มีการเลี้ยงไส้เดือนดิน ใช้เศษพืชทำเป็นปุ๋ยหมัก ทำให้ดินได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและลดต้นทุนการผลิตด้วย มีการใช้น้ำส้มควันไม้เพื่อไล่แมลงศัตรูพืชทดแทนการใช้สารเคมี เป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เกษตรกรมีความปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

นางสาวภัทรภร แสงบุญ บ้านเลขที่ 43/2 หมู่ที่ 4 ตำบลชมพู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเกษตรกรรายหนึ่งที่ดำเนินงานปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชผักหลายชนิดหมุนเวียนกันในพื้นที่จำกัดภายในบ้านของตนเอง พืชผักสวนครัวบางชนิดใช้ปลูกบริเวณริมรั้วบ้าน จนเรียกได้ว่าใช้พื้นที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ผักคะน้า มะเขือเทศ มะเขือพวง ข่า ตะไคร้ กระเพรา โหรพา ผักสลัด พริกสด กล้วย พริกขี้หนู เห็ด เพาะต้นทานตะวันอ่อน ถั่วฝักยาว เพาะต้นกล้าไม้กระถาง ฯลฯ การปลูกพืชดังกล่าว ได้นำเอาระบบการปลูกพืชตามหลักวิชาการที่ได้เรียนรู้มาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร มาใช้ในแปลงเกษตรของตนเอง เช่น การปลูกพืชผักในเรือนโรง การปลูกในแปลงที่ใช้พลาสติกคลุมป้องกันวัชพืช ประหยัดการใช้น้ำ ได้รับคำแนะนำจากกรมพัฒนาที่ดินให้ผลิตปุ๋ยหมักไส้เดือนดินและน้ำหมักไส้เดือนดินมาใช้กับพืชผัก มีการแปรรูปผลผลิตหลายชนิดเป็นเป็นน้ำบรรจุขวดพร้อมดื่ม

 

จากผลงานที่ผ่านมาประมาณ 5 ปี แปลงพืชผักอินทรีย์แห่งนี้ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นครัวเรือนต้นแบบ เป็นศูนย์เรียนรู้ประจำตำบลชมพู มีเกษตรกรจากตำบลอื่นมาศึกษาดูงานเฉลี่ยเดือนละ 2 กลุ่ม สมาชิกรวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ปลูกผักอินทรีย์ สมาชิก 50 คน สนใจติดต่อศึกษาดูงานติดต่อได้ที่ นางสาวภัทรภร แสงบุญ 08-6915-3400

[email protected]
ท.ลุงเกษตร

ร่วมแสดงความคิดเห็น