พะเยานำร่อง โมเดล นักค้ามืออาชีพ

ก.พาณิชย์ รุกสร้าง “นักการค้ามืออาชีพ” ภายใต้โครงการ SMART THAI BIZ ขยายเครือข่ายธุรกิจภาคการค้าและบริการท่องเที่ยวทั่วประเทศ เริ่มสตาร์ทที่จังหวัดพะเยา เป็นจังหวัดนำร่องจังหวัดแรก พร้อมสร้างโมเดลธุรกิจแบบรายกลุ่มเชื่อมโยงเครือข่ายในระดับจังหวัดสู่ภูมิภาคส่งต่อถึงระดับประเทศ หวังผลักดันเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็งและมั่นคง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งยกระดับศักยภาพของ SMEs ไทย ให้พร้อมต่อการแข่งขันในทุกๆ เวทีการค้า และพัฒนาให้เป็น “นักการค้ามืออาชีพ” มากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำลังดำเนินการสร้างนักการค้ามืออาชีพ ภายใต้ “โครงการสร้างนักการค้ามืออาชีพ” หรือ SMART THAI BIZ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล และได้รับเงินสนับสนุนจาก สสว. เพื่อดำเนินการประเมินสถานะทางธุรกิจของ SMEs ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายจำนวน 3,500 ราย กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย สมาชิกรุ่นใหม่ของหอการค้า สภาอุตสาหกรรม เครือข่ายธุรกิจ Moc Biz Club ของกระทรวงพาณิชย์ SMEs ทั่วไป และวิสาหกิจชุมชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาแบบจำลองทางธุรกิจ (Business Model) ที่มีความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยจะร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดทั่วไป สถาบันการเงิน และสถาบันการศึกษา คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพและพร้อมรับการพัฒนา โดยจะวางระบบเครือข่ายที่ปรึกษา SMEs ในแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมกัน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ โครงการ SMART THAI BIZ ได้คัดเลือก SMEs ภาคการค้าและบริการ โดยให้คำปรึกษาทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตลอดจนแนะนำการพัฒนาธุรกิจแก่ SMEs ในพื้นที่ ให้เกิดเป็นเครือข่ายทางการค้าที่สามารถเกื้อกูล แลกเปลี่ยน และเชื่อมโยงธุรกิจในระดับพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจในจังหวัด ภูมิภาค และส่งผลถึงระดับประเทศ โดยขั้นตอนต่อไป คือ สร้างต้นแบบเพื่อพัฒนาคลัสเตอร์ของธุรกิจภาคการค้าและบริการที่อยู่ภายในจังหวัดเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสและมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมโดยรวมของจังหวัด โดยได้เลือกจังหวัดพะเยา เป็นจังหวัดนำร่องจังหวัดแรกในการสร้างเครือข่ายการค้าและธุรกิจบริการท่องเที่ยว โดยการยกระดับเป็น Business Model และพัฒนาช่องทางการตลาด Digital Marketing ให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยจะเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ ได้แก่ MOC Biz Club ,Young FTI, YEC รวมถึง ผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับบริการท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยา จำนวนกว่า 100 ราย ซึ่งจะเป็นต้นแบบในการเชื่อมโยงเครือข่ายการค้าและบริการในระดับจังหวัด กลุ่มจังหวัด และระดับภาค โดยจะดำเนินงานในเดือนมกราคม 2560 นี้

นายสนธิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เป้าหมายสำคัญนอกจากจะยกระดับโมเดลธุรกิจการค้าและบริการท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยาแล้ว ยังสามารถเป็น Platform โมเดลธุรกิจแบบคลัสเตอร์ในการเชื่อมโยงเครือข่ายในระดับจังหวัด สู่ระดับภูมิภาคได้อีกด้วย เพื่อสร้างห่วงโซ่คุณค่าในการพัฒนาธุรกิจ สร้างโอกาสทางการค้า และขยายตลาดร่วมกัน (Market Access Network) อันจะส่งผลต่อเนื่องของการพัฒนาสอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ซึ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งแก่ธุรกิจระดับฐานรากให้มีความมั่นคงและยั่งยืน

“ทั้งนี้ การเชื่อมโยงกับธุรกิจเป้าหมายภาคการค้าและบริการ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการฯ สำหรับประเทศไทยธุรกิจภาคการค้าและบริการถือเป็นธุรกิจที่สำคัญของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจภาคบริการได้เข้ามามีบทบาทต่อเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายงานสถานการณ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี 2559 GDP ของ SMEs คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.10 ของ GDP ประเทศ และสัดส่วนมูลค่า GDP ของ SMEs จำแนกรายภาคธุรกิจ สูงสุด คือ ภาคบริการ คิดเป็นร้อยละ 33.40 นอกจากนี้ ยังมีการจ้างงานในภาคบริการสูงถึงร้อยละ 45.20 ของการจ้างงานรวม และมีแนวโน้มการจ้างงานในภาคบริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคธุรกิจการบริการท่องเที่ยวซึ่งเป็นส่วนสำคัญของภาคบริการของประเทศไทย ซึ่งที่ผู้สนใจ “SMART THAI BIZ” สามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.smartthaibiz.com /Facebook : Smart Thai Biz หรือโทร 095 371 2253-4″ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น