วันที่ 19 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีในโลกโซเชียลได้มีการแชร์ภาพและข้อความ จากสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ @BOok GEe ระบุข้อความว่า “คุณเป็นใครถึงได้ไม่มีจิตสำนึกขนาดนี้” พร้อมเผยเรื่องราวที่มารดาถูกคนบุกบ้านมาแทงแล้วเอาน้ำมันราดพร้อมจุดไฟเผาต้องนอนทุกข์ทรมานจนเสียชีวิต โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวอ้างว่า หลังจากวันเกิดเหตุ คนร้ายยังได้โพสต์เฟซบุ๊ก ภูมิใจที่ได้กลับมากินข้าวต้มฝีมือแม่ที่บ้าน จนชาวโซเชียลที่อ่านเรื่องราวดังกล่าว ต่างแชร์โพสต์ช่วยเรียกร้องความธรรมต่อเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
ซึ่งต่อมา ภายหลังทางผู้สื่อข่าวได้ติดตามเรื่องราวนี้ จนกระทั่งทราบว่าผู้โพสต์เรื่องดังกล่าวคือ นายศรชัย คำแก้ว ซึ่งกำลังจัดงานศพให้กับ นางศรีรัตน์ คำแก้ว มารดาอายุ 59 ปี ที่วัดปูคาเหนือ ต.แม่ปูคา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่เพิ่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาจากอาการติเชื้อในกระแสเลือดจากการถูกแทง และราดน้ำมันเผาร่งกายจนร่างกายกว่าร้อยละ 50 ถูกไฟไหม้อาการสาหัวต่อเนื่องมาตั้งแต่คืนวันที่ 30 กันยายนต่อเนื่องวันที่ 1 ตุลาคม นานกว่า 2 เดือนก่อนที่จะเสียชีวิตลงดังกล่าว
โดย นายศรชัย คำแก้ว บุตรชายเล่าว่า ก่อนหน้านี้น้องสาวตน ได้คบหากับ นายแซม(นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ตั้งแต่ปี 58 ที่ผ่านมา ซึ่งมีพฤติกรรมชอบทำร้ายร่างกายน้องสาวตนอยู่เสมอ จนวันหนึ่งมารดาของตน จึงขอให้เลิก แต่ฝ่ายนายแซมไม่ยอมและขู่ฆ่า จนวันที่ 28 ก.ย. 59 ทางครอบครัวตนได้เดินทางไปที่ สภ.สันกำแพง เพื่อลงบันทึกข้อตกลง ระหว่างครอบครัวนายแซมและครอบครัวตน ว่าหลังจากนี้นายแซมจะมาไม่ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวตนอีก โดยทางบิดาของนายแซม ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นก็ได้ตกลงด้วยดี แต่เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 1 ต.ค. 59 หลังจากที่ตนเดินทางกลับไปทำงานที่ต่างจังหวัด นายแซมได้เข้ามาแอบอยู่ระเบียงหน้าบ้านตน ซึ่งทั้งบ้านมีแค่มารดา น้องสาว และลุงซึ่งเป็นผู้พิการติดเตียงไม่สามารถเดินได้ เมื่อน้องสาวตนเดินผ่านไปห้องน้ำ จึงได้ตรงเข้าเอามีดแทงน้องสาว ซึ่งน้องสาวตนได้ร้องตะโกน พร้อมวิ่งไปขอความช่วยเหลือข้างบ้าน เมื่อมารดาตนได้ยินลูกร้องเช่นนั้น จึงออกมาดู นายแซมเห็นเข้าจึงตรงเข้ามาหาคุณแม่ แล้วใช้มีดแทงเข้าไปที่ท้องถึง 3 ครั้ง เมื่อคุณแม่ล้มลงก็ยังใช้ขวดน้ำมันที่เตรียมมาด้วย ขว้างเข้าไปตกตรงหว่างขาคุณแม่แล้วจุดไฟเผา พร้อมทั้งบอกว่าจะฆ่าทั้งครอบครัวแล้วจึงหนีไป ด้านน้องสาวตนและคนข้างบ้านที่ตามมา จึงได้นำน้ำมาดับไฟแล้วนำคุณแม่ส่งโรงพยาบาลทันที โชคดีที่มีดแทงไม่โดนจุดสำคัญ แต่แผลที่ถูกไฟเผานั้นสาหัสตั้งแต่เท้าจนถึงก้นและแขน ทั้งยังมีอาการอักเสบและติดเชื้อ ทางตำรวจ สภ.สันกำแพง ได้จับกุมตัวนายแซมได้ในวันที่ 6 ต.ค.พร้อมแจ้งข้อหาพยายามฆ่า แต่ก็ถูกประกันตัวไปเมื่อวันที่ 7 ต.ค.จนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ในวันที่ 13 มีนาคมทางศาลได้มีการนัดไต่สวนครั้งแรกขึ้น แต่แม่ก็มาเสียชีวิตก่อน ตอนนี้ทางครอบครัวติดใจว่าเหตุไดคดีอุกฉกรร เช่นนี้จึงได้มีการให้ประกันตัวไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเหตุใดทางตำรวจเจ้าของคดีจึงไม่มีการคัดค้านการประกันตัวหรือทำสำนวนอ่อนไป ทางครอบครัวต้องอยู่กัน หวาดผวาเนื่องจากตอนก่อนเหตุผู้ต้องหาเองยังข่มขู่จากฆ่าทั้งครอบครัว ที่สำคัญตอนนี้ก็ปรักันตัวออกมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ โดยไม่มีความสำนึกผิดใดๆ ยังมีการโพสต์ลงเฟสบุคของตัวเองว่าไปเที่ยวรื่นเริงตามงานเทศกาลต่างๆ รวมทั้งกินเที่ยวกับครอบครัว ซึ่งต่างจากครอบครัวของผู้เสียหายเองต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักทั้งต้องดูแลรักษาพยาบาลแม่ที่บาดเจ็บ น้องสาวที่ถุกแทง อีกทั้งลุงที่ป่วยเป็นอัมพาตที่บ้านต้องจ้างคนมาดูแล และตอนนี้ทั้งหมดก็หวาดกลัวไม่กล้ากลับเข้าไปอยู่ที่บ้านโดยเฉพาะน้องสาวต้องไปหลบซ่อมตัวที่อื่นไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ทั้งๆ ที่เป็นบ้านของตัวเอง
ส่วนเรื่องฝ่ายตรงข้ามพยายามจะมาเจรจาช่วยเหลือ แต่ที่ทางครอบครัวไม่สามารถรับได้คือจะมีข้อแม้ต่างๆ เกี่ยวกับคดีพ่วงมาด้วยเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหา ทางครอบครัวจึงไม่ยอมรับการช่วยเหลือจนกว่าคดีจะถึงที่สุด แต่ตอนนี้ก็ยังสงสัยกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะทางฝั่งของตำรวจเจ้าของคดีว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร หลังจากที่มารดาได้เสียชีวิตลงวาจะมีการทำสำนวนใหม่หใระบุข้อหาหนักกว่าพยายามฆ่าได้หรือไม่ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนออกมา จึงอยากวอนผ่านทางสื่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ควายุติธรรมกับครอบครัวของตนเองด้วย
ทางทีมข่าวได้สอบถามไปยัง ร้อยเวรเจ้าของคดีได้รับคำตอบว่าให้ไปสอบถามรายละเอียดที่ พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สภ.สันกำแพง เบื้องต้นมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุในข้อหาพยายามฆ่า และส่งสำนวนส่งฟ้องตั้งแต่เดือนธันวาคมแล้ว
ร่วมแสดงความคิดเห็น