ชาวบ้านร้องจังหวัดสวนส้มแย่งน้ำทำนาข้าว

ชายฉกรรจ์บุกบ้านแกนนำที่ต่อต้านสวนสั้มอ. แม่อายจ. เชียงใหม่ที่ระบุสวนส้มแย่งน้ำชาวนาจนข้าวแห้งตายยื่นหนังสือถึงนายกอบต. แม่สาวเพื่อส่งถึงนายกฯ ตู่ให้ใช้ม. 44 คืนพื้นที่ ป่า

ชาวบ้านเดือนร้อนซ้ำกรณีปัญหาชาวบ้านแย่งน้ำกับเจ้าของสวนส้มจากที่ชาวนา 1,230 ครอบครัวเดือดร้อนไม่มีน้ำทำนาล่าสุดมีชายฉกรรจ์ขับรถเก๋งดำบุกไปบ้านของแกนนำชาวบ้านถ่ายภาพบ้านและทะเบียนรถในบ้านแล้วรีบ หนีขณะเจ้าของบ้านมาพบชาวบ้านมั่นใจประเด็นปัญหาที่ออกมาต่อต้านเจ้าของสวนส้มที่แย่งน้ำชาวบ้านแน่นอนยื่นหนังสือให้นายกอบต. แม่สาวส่งนายกรัฐมนตรีอีกและเตรียมหาทางแก้ไขร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย

ตามที่ได้เสนอข่าวนายทุนสวนส้มแย่งน้ำชาวนา 1,230 ครอบครัวในต. แม่สาวและต. แม่อายอ. แม่อายจ. เชียงใหม่เดือนร้อนไม่มีน้ำทำนามานานนับปีร้องเรียนไปที่อำเภอแม่อายเรื่องเงียบจนกระทั่งชาวบ้านจำนวนกว่า 300 คนเดินทางมาร้องเรียนจังหวัดพร้อมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ใช้ม. 44 ขอคืนพื้นที่ป่าโดยยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560

ข่าวคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากสมศักดิ์เขื่อนแก้วกรรมการผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาวว่านายอนันต์สูนทรประธานผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาวนายอาทิตย์ไวเจริญรองประทานฯ นายพิรุณนันตาเลขา ผู้ใช้น้ำแม่สาวและคณะกรรมการได้ยื่นหนังสือถึงนายสมชายสุวรรณ์นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สาวเพื่อส่งถึงนายกรัฐมนตรีอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาได้อีกช่องทางหนึ่ง

ปัญหาของชาวบ้านล่าสุดพบอีกคือทางภรรยาตนนางเกษรเขื่อนแก้วแจ้งกับตนว่าได้เห็นชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งได้ขับรถเก๋งสีดำทะเบียนรถ 6713 จำหมวดอักษรและจังหวัดไม่ได้เข้ามาจอดหน้าบ้านคนใน รถนำกล้องถ่ายภาพบ้านและทะเบียนรถในบ้านทุกคันขณะที่ภรรยาตนออกมาดูกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ในรถยนต์รีบขับรถหนีออกไปด้วยความรวดเร็วซึ่งตนและชาวบ้านมั่นใจว่ากลุ่มชายดังกล่าวเข้าไปในพื้นที่ หมู่บ้านของชาวบ้านเพื่อมาเก็บข้อมูลและถ่ายภาพนำไปให้กลุ่มคนใดคนหนึ่งที่อาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกับปัญหาที่ชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวกรณีต่อต้านเจ้าของสวนส้มในพื้นที่อำเภอแม่อายซึ่งกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวลง พื้นที่มาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2560 แล้วเรื่องนี้ตนแจ้งให้ชาวบ้านรับทราบแล้วและแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อหาทางแก้ไขพร้อมกันนั้นได้แจ้งกับสื่อมวลชนทราบด้วย

ส่วนกรณีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ม. ค. ที่ศาลากลางเชียงใหม่นายอนันต์สุนทรประธานผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาวอ. แม่อายจ. เชียงใหม่และนายสมศักดิ์เขื่อนแก้วกรรมการผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาวพร้อมชาว บ้านผู้ทำนาในต. แม่สาวและต. แม่อายจำนวนกว่า 300 คนที่เป็นตัวแทนเกษตรกรผู้ใช้น้ำใน 2 ตำบลจำนวน 1,230 ครัวเรือนพื้นที่ทำนาได้รับผลกระทบไม่มีน้ำทำนาจำนวน 14,079 ไร่เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เพื่อส่งถึงรัฐบาลเรื่องเดือดร้อนของชาวนาที่ใช้น้ำทำนาทั้งนาปีและนาปรังในปีนี้มีนายมนัสขันแก้วปลัดจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้รับหนังสือและกล่าวว่าจะรีบดำเนินการสอบสวนช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็วและให้ความ เป็นธรรมกับทุกฝ่ายและจะนำเอกสารและข้อมูลทั้งภาพถ่ายและวีดีโอส่งให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดดำเนินการช่วยเหลือต่อไปนั้น

ซึ่งชาวบ้านเรียกร้องคือ 1. ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฏหมายอุทยานและป่าไม้โดยเด็ดขาด 2. พื้นที่ใดติดขัดกฏหมายเรียนผ่านผู้ว่าถึงนายกรัฐมนตรีของให้ใช้กฏหมายพิเศษม. 44 และ 3. ขอ ให้ทวงคืนผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขตป่าสงวนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ข้อ 4. ข้อให้ปฏิรูปข้าราชการในอำเภอแม่อายที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำงานไม่สนองต่อความต้องการของประชาชนและข้อ 5. ข้อให้มีการสำรวจพื้นที่ในตำบลแม่ สาวเพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อรองรับภัยแล้งในอนาคต

สมศักดิ์เขื่อนแก้วกรรมการผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาวกล่าวว่าชาวบ้านและเกษตรกรทำนาได้ยื่นหนังสือปัญหาที่พบคือมีกลุ่มนายทุนที่ทำสวนส้มของเฮียสุเฮียวิเชียรเฮียฮู้และเฮียม้งและนายทุนชาวจีนอีกจำนวน หนึ่งได้มาลงทุนปลูกสวนส้มในพื้นที่บนยอดดอยเหนือที่ทำนาของชาวบ้านในต. แม่ลาวและต. แม่อายพบว่าผู้ทำสวนส้มดังกล่าวได้นำท่อพีวีซีเส่นผ่าศูนย์กลางขนาด 2 นิ้ว 3 นิ้วและ 4 นิ้วและ 6 นิ้วแล้วนำเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ดูดเอาน้ำดูดเอาน้ำจากลำน้ำแม่สาวไปใช้ในสวนส้มมานานหลายปีซึ่งพื้นที่ปลูกส้มแต่ละรายมีกว่า 30-100 ไร่คาดว่าจะมีมากหลายหมื่น ไร่กรรมการผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาวกล่าวอีกว่าชาวบ้านเมื่อไม่มีน้ำทำนาในปี พ.ศ. 2559 เกิดภัยแล้งชาวบ้านได้รับผลกระทบข้าวชาวนาตายไปเป็นจำนวนมากและชลประทานก็ไม่ปล่อยน้ำลงแปลงนาชาว บ้านอีกด้วยจึงทำหนังสือถึงนายฉลวยพ่วงพลับนายอำเภอแม่อายในขณะนั้นประชุมร่วมกับทางอำเภอเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2559 มีการตั้งคณะกรรมการทำงานจัดการน้ำมีการประชุมทุกฝ่ายและลงมติให้ร่วมกันแบ่ง น้ำใช้ให้ยุติธรรมกับชาวนาและผู้ปลูกสวนส้มทุกฝ่ายลงลายมือชื่อ แต่กลุ่มผู้ปลูกสวนส้มไม่ยอมลงลายมือชื่อและไม่ยอมรับมติการประชุมจึงเกิดการแย่งน้ำกันมานานกว่า 1 ปี “เจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ อำเภอชลประทานก็ไม่เคยยื่นมือมาช่วยเกษตรกรที่ทำนาเลยจึงเข้ามาร้องเรียนทางจังหวัดเชียงใหม่และเข้าร้องเรียนกับทางทหารที่มทบ. 33 เพื่อเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวไปให้ถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเพื่อลงมาแก้ไขและหาก เรื่องนี้ยังเงียบอีกชาวบ้านทั้งหมดก็จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อพบนายกรัฐมนตรีขอให้ใช้ม. 44 ต่อไป “นายสมศักดิ์เขื่อนแก้วกรรมการผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาวกล่าวและวันนี้ชาวบ้านก็ได้มาแจ้งเบาะแสที่ถูกกลุ่ม ชายฉกรรจ์เข้าพื้นที่ถ่ายภาพบ้านและทะเบียนรถดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น