“ศาลาว่าการมณฑลพายัพ” อาคารประวัติศาสตร์ ศูนย์กลางการปกครอง ของอาณาจักรล้านนา

อาคารศาลากลางเชียงใหม่หลังเก่า บริเวณกลางเมืองเชียงใหม่ เป็นอาคารที่มีความงดงามและมีคุณค่าทางประวัติ ศาสตร์ เคยเป็นศาลาว่าการรัฐบาลมณฑลพายัพ และเป็นศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ดังนั้นคุณค่าทางด้านประวัติ ศาสตร์ของอาคารหลังนี้คงไม่ต้องพูดถึง ความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของอาคารหลังนี้ ประการหนึ่ง นอกจากจะเป็นศูนย์กลางของการบริหารนครแล้ว บริเวณที่ตั้งของอาคารยังตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกกันว่า “กลางเวียง” ในปัจจุบันหรือ “สะดือเมือง” ในอดีตซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของ “เสาอินทขิล” หรือเสาหลักเมืองมาก่อน ที่จะย้ายเสาไปไว้ที่วัดเจดีย์หลวง นอกจากนั้นที่บริเวณนี้ ในอดีตยังเป็นที่ตั้งของหอคำ และที่ทำการเค้าสนามหลวง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปก ครองของอาณาจักรล้านนา

ศาลารัฐบาลมณฑลพายัพ หรือ ศาลากลางเชียงใหม่หลังเก่านี้ พระเจ้าอินทวโรรส เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 8 และพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงยกที่ดินซึ่งเป็นมรดกของพระองค์ ให้แก่ทางราชการ เพื่อสร้างศาลารัฐบาลมณฑลขึ้นมา เมื่อ พ.ศ.2462 สร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้ในปี พ.ศ.2464 ในปี พ.ศ.2437 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้พระยาศรีสหเทพ (เส็ง วิริยะศิริ) ภายหลังเป็นพระยามหาอำมายตยาธิบดี ปลัดทูลฉลองกระ ทรวงมหาดไทย จัดการปกครองหัวเมืองมณฑลพายัพ ขึ้นเป็นครั้งแรก

พระยาศรีสหเทพ ได้ร่างข้อบังคับสำหรับที่ว่าการเมือง เรียกว่า “เค้าสนามหลวง” จัดให้มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในแต่ละแคว้นขึ้นกับเมือง เรียกว่า “เจ้าเมือง” เจ้าเมืองขึ้นกับบริเวณ เรียกว่า “ข้าหลวงบริเวณ” และข้าหลวงบริเวณขึ้นต่อเค้าสนามหลวง มีการจัดเก็บเงินค่าแรงแทนเกณฑ์ เรียกว่า “เงินรัชชูปการ” เก็บคนละ 4 รูปี ต่อปี กระทั่งในที่สุดได้จัดทำตราเป็นพระราชบัญญัติ เรียกว่า “พระราชบัญญัติจัดตั้งมณฑลพายัพ”

จากนั้นจึงได้ตั้งนครเชียงใหม่เป็นตัวมณฑล เป็นที่ตั้งของที่ว่าการมณฑลพายัพ สมัยนั้นอาคารศาลารัฐบาลมณฑลพายัพ หรือที่ทำการมณฑลเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ต่อมาจึงได้สร้างเป็นอาคารก่ออิฐกับปูนในสมัยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าบวรเดชกฤษดากร อุปราชมณฑลพายัพ ซึ่งเป็นรูปแบบของอาคารดังเช่นปัจจุบันนี้

เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เสด็จประพาสหัวเมืองพายัพในปี พ.ศ.2469 ทางจังหวัดได้จัดให้มีขบวนต้อนรับเสด็จ ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้เสด็จประทับที่ศาลาว่าการรัฐบาลมณฑลพายัพแห่งนี้ด้วย

ศาลาว่าการรัฐบาลมณฑลพายัพ ถูกใช้เป็นสถานที่ว่าราชการมาหลายยุคหลายสมัย จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่หน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้เพิ่มมาขึ้นทำให้สถานที่แห่งนี้คับแคบ ทางจังหวัดจึงได้ย้ายอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ไปอยู่อาคารศาลากลางหลังใหม่ บริเวณบ้านแม่หยวก ตำบลช้างเผือก ถนนโชตนาทางไปอำเภอริม เมื่อปี พ.ศ.2539

ปัจจุบันศาลาว่าการรัฐบาลมณฑลพายัพ หรือ อาคารศาลากลางเชียงใหม่หลังเก่าแห่งนี้ ถูกดัดแปลงให้เป็นหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาแห่งอดีตอันรุ่งโรจน์ ของอาณาจักรล้านนา หัวเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้า การปกครองของภูมิภาคตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เพียงแห่งเดียวที่นำเสนอความเป็นมาของอดีตเมืองเชียงใหม่ ได้อย่างครบถ้วน และอาจเรียกได้ อีกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไฮเทคที่สุด ในบรรดาพิพิธภัณฑ์ทั้งหลายที่มีอยู่ในประเทศ

ร่วมแสดงความคิดเห็น