บรรยากาศวันจ่ายเทศกาลตรุษจีนย่านไชน่าทาวน์เชียงใหม่คึกคัก

 

เชียงใหม่ บรรยากาศวันจ่ายเทศกาลตรุษจีนย่านไชน่าทาวน์เชียงใหม่คึกคัก ขนมไหว้ปรับขยับราคา ส่วนสิ้นค้าอื่นเป็ดไก่ยังคงเดิมประชาชนยังเลือกซื้อของไหว้ครบถ้วนตามประเพณี

ช่วงเช้าวันที่ 26 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนี้ซึ่งเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน และถือว่าเป็นวันจ่ายตามประเพณีชาวจีน ที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อของเซ่นไหว้ และของใช้ที่จำเป็นกับการใช้ในเทศกาลตรุษจีนของชาวจีน โดยที่จังหวัดเชียงใหม่บรรยากาศของวันจ่ายในเทศกาลตรุษจีนเริ่มคึกคักมาตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเฉพาะที่ตลาดวโรรส หรือกาดหลวงหรือย่านไชน่าทาวน์เชียงใหม่ ตลาดการค้าของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอยกัน บรรดาร้านค้าที่จำหน่าย เป็ด ไก่ และหมู

อย่างที่ร้านเป็ดพะโล้กาดหลวง ซึ่งเป็นร้านที่รับสั่งทำเป็ด และไก่ของไหว้ บอกว่า ปีนี้ ราคาหมู ไก่ เป็ด มีการขยับราคาเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 5–10 บาท แต่ราคาจำหน่าย เป็ด และไก่ก็ยังไม่ขยับราคาขึ้นจากปีก่อนแม้กำไรจะลดลงบ้างแต่ยอดสั่งปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อยก็ถือว่าเฉลี่ยกันไป โดยไก่ต้มจำหน่ายที่ตัวละ 250-300 บาท เป็ดพะโล้อยู่ที่ตัวละ 350-380และ400 บาทท ส่วนหมูต้มอยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท หมูกรอบอยู่ที่กิโลกรัมละ 400 บาท ทั้งนี้แม้ราคาของจะขยับขึ้นแต่พบว่ายังมียอดสั่งซื้อมากขึ้น เนื่องจากถือเป็นงานประเพณีใหญ่หลายครอบครัวก็ยังคงต้องมีของไหว้ให้ครบตามประเพณี

ส่วนของขนมไหว้หลายชนิดยังราคาเดิมทั้งสาลี่ ปุยฝ้าย ที่จำหน่ายคู่ละ 40 บาทไปจนถึงลูกละ 150 บาท แต่ขนมเข่ง และขนมเทียนปีนี้ต้องขยับราคาขึ้นลูกละ 50 สตางค์ถึง 1 บาท เนื่องจากราคามะพร้าว และน้ำมันผืช ที่ปรับขึ้น ขนมเข่งจากลูกละ 6 บาทปีนี้ต้องขาย 7 บาท ขนมเทียนอนู่ที่ลูกละ 3-5 บาท อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงบ่ายบรรยากาศการจับจ่ายของไหว้ก็จะคึกคักมากขึ้นอีก

ทั้งนี้จากการสำรวจ ที่ร้านแม่ตุ๊ และร้านยุพิน ซึ่งเป็นร้านขายขนม ภายในตลาดดังกล่าว พบว่าทั้ง 2 ร้าน ได้มีการเพิ่มปริมาณสินค้าขึ้นจำนวนหนึ่งเพื่อเตรียมขายให้กับประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของภายในตลาด โดยเฉพาะขนมเทียน และ ขนมเข่ง เนื่องจากช่วงใกล้เทศกาลนั้นจะมีประชาชนมาจับจ่ายซื้อมากขึ้น เพื่อเตรียมไปใช้ในพิธีไหวเจ้าและพิธีมงคลช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยจากการสอบถามราคาในปีนี้ได้มีการปรับขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากวัตถุดิบ อาทิ แป้ง และใบตอง ที่ใช้ในการทำขนมมีราคาที่แพงขึ้น จึงทำให้ต้องมีการปรับราคาเพื่อให้สามารถขายได้และไม่ขาดทุน นอกจากนี้ยังได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายโดยการหันมาห่อเป็นถุง เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อได้อีกทางหนึ่ง
โดยทางเจ้าของร้าน ระบุว่า ในช่วงนี้ขนมเข่งที่ร้านเริ่มขายดีขึ้นเนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่มีประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายซื้อไปเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยในวันนี้เป็นวันแรกที่ทางร้านได้มีการเพิ่มปริมาณสินค้าขึ้นโดยเฉพาะขนมเข่งที่ตอนนี้ได้มีการเร่งผลิตเป็นวันละ 5,000 ชิ้น และขาย 2 จุด คือที่บ้าน และที่ตลาดแห่งนี้ ซึ่งในวันนี้ได้มีการวางขายตั้งแต่ช่วงเช้าก็พบว่ามีลูกค้ามาซื้อขนมอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าอีก 1-2 วันนี้ จะขายดีขึ้นเนื่องจากจะต้องมีประชาชนมาหาซื้อขนมไปใช้ในงานตรุษจีน โดยทางร้านก็ได้มีการเตรียมความพร้อมและคาดว่ามีสินค้าเพียงพอที่จะจำหน่ายเนื่องจากที่บ้านมีคนทำขนมตลอดทั้งวันอยู่แล้ว ขณะเดียวกันที่ร้านจะเน้นขายขนมเข่งเป็นหลัก ซึ่งมีหลากหลายรสชาต อาทิ ใส้มะพร้าว ใส้ถั่ว รวมทั้งแบบไม่มีใส้ โดยทางร้านขายในราคาอันละ 6 บาท ทุกใส้ นอกจากนี้ได้มีการใส่ถุง 5 ชิ้น ในราคาถุงละ 30 บาท เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อ อย่างไรก็ตามในส่วนของปัญหาเรื่องวัตถุดิบที่ประสบอยู่ในตอนนี้คือ เรื่องของใบตองที่นำมาห่อขนม ที่ขณะนี้มีราคาพุ่งสูงจากปีก่อนเกือยเท่าตัว โดยในปีนี้ทางร้านของตนต้องรับซื้อใบตองในราคาถึงมัลละ 150 บาท จากแต่เดิมปีก่อนอยู่ที่ราคาเพียงมัดละ 80-100 บาท จึงทำให้ต้องมีการปรับราคาสินค้าขึ้นมาบ้างเพื่อไม่ให้ขาดทุน
อย่างไรก็ตามจากปัญหาในเรื่องของวัตถุดิบที่แพงขึ้นตนก็ได้ปรับตัวเพื่อให้อยู่ได้ โดยการปรับขึ้นราคาสิ้นค้าบางอย่าง และการลดปริมาณการผลิตลง โดยต้องดูจากยอดความต้องการ ซึ่งคาดว่าในอีก 1-2 วันนี้ก็จะเพิ่มปริมาณสินค้าขึ้นบางเล็กน้อย เพื่อให้เพียงพอจำหน่ายกับลูกค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน และทางร้านก็ได้มีการจำหน่ายขนมหายๆ อย่างเพื่อให้ทางลูกค้าได้เลือกซื้ออีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น