COOK WITH LOVE BAKERY ฉีกความจำเจกับเบเกอรี่สมัยใหม่

ปัจจุบันหากจะพูดถึงร้านของหวานที่ขึ้นชื่อ คงหนีไม่พ้นร้านเบเกอรี่ต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเด็ก วัยรุ่นหรือวัยทำงาน ไม่เว้นแต่ผู้ใหญ่ที่มีใจรักในการกิน วันนี้เราจะนำเสนอร้านเบเกอรี่ที่กำลังโด่งดังในจังหวัดเชียงใหม่อย่างร้าน “Cook With Love Bakery” ซึ่งเป็นร้านเบเกอรี่สไตล์สมัยใหม่ที่เริ่มจากการขาย “Cheese Tart” และได้พัฒนาต่อยอดทำ “Crape” ที่หลากหลายรสชาติ

“Cook With Love Bakery” เป็นร้านเบเกอรี่ที่รู้จักกันดีในบรรดาสาวกชีสทาร์ตและเครปญี่ปุ่นในจังหวัดเชียงใหม่ โดยทางร้านจะเน้นความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ถ้าพูดถึงร้านเบเกอรี่เรามักจะนึกถึง เค้ก ขนมปัง หรือขนมหวานทั่วๆ ไป แต่สำหรับร้านนี้ได้มีการรังสรรค์เมนูที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง หลายคนคงเคยรู้จักร้านอาหารญี่ปุ่นรสเลิศระดับ Premium ของจังหวัดเชียงใหม่อย่าง “Cook With Love ” ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ปลาแซลมอน จากนอร์เวย์ ล็อบสเตอร์จากแคนาดา เนื้อโกเบ จากญี่ปุ่น และอีกหลายเมนูที่นำมาให้บริการสำหรับลูกค้าของทางร้านโดยเฉพาะ

จากร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังได้ขยับขยายออกมาเป็นร้านเบเกอรี่ เริ่มจาก “เชฟป๊อบ หรือ ภาสกร อุณฤทธิ์” เชฟผู้ที่คิดค้นเบเกอรี่อย่าง Cheese Tart โดยเชฟป๊อบได้เล่าว่า เดิมทีร้าน “Cook With Love Bakery” ได้คิดค้น เบเกอรี่อย่าง Cheese Tart เมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว ตอนแรกเริ่มทำเป็นพรีออเดอร์ สำหรับลูกค้ามาที่สั่งแล้วจัดส่งถึงบ้านและเกิดประสบความสำเร็จ ทำให้มีออเดอร์เข้ามาเรื่อย เลยลองทำเป็นกิจลักษณะและออกตามอีเว้นต์ และ “เชฟไข่ หรือ ณัฏชัย ธาดาธนทัต” ได้เล่าถึงเรื่องราวก่อนจะมาเป็น Crepe With Love ภายใต้แบรนด์ “Cook With Love Bakery” ที่โด่งดังว่า

“หลังจากที่เราประสบผลสำเร็จจากชีสทาร์ตแล้วจึงมีความคิดที่อยากจะทำเบเกอรี่ที่สามารถขายได้แบบยั่งยืนเพราะชีสทาร์ตเรามองว่าเป็นเพียงเทรนด์ในตอนนั้น อยากจะหาอะไรที่คนสามารถทานได้ทุกวันและไม่เบื่อ จึงมาจบลงที่เมนู “เครป” แต่เราก็ยังอยากให้หลงเหลือกลิ่นอายของ Cook With Love และคงความเป็นเอกลักษณ์ของเราเพื่อที่จะให้เครปของเราแตกต่างจากเครปทั่ว ๆ ไป จึงนำ Cook With Love มาผสมกับ Crape จนกลายเป็น “Crepe With Love ทั้งนี้แบรนด์ Cook with love ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเป็นของดีแล้วก็อร่อย เราต้องยืนคอนเซ็ปต์ของเรา”

ปัจจุบัน Crepe With Love มีไส้เครปที่เป็น Signature ของทางร้านทั้งหมด 19 ตัว เชฟได้ใช้เวลาคิดค้นถึง 3 เดือน เพื่อให้ได้ไส้เครปที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทางร้านได้นำเอาความเป็นญี่ปุ่นมิกซ์กับแป้งเครปจากฝรั่งเศสเหมาะสำหรับคนชอบอาหารญี่ปุ่นหรือสำหรับคนที่ชอบแบบยุโรป นอกจากนี้ยังมีไส้เครปสำหรับคนที่ชอบทานแบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็น ไส้กะเพราชีส หรือ ไส้ปูผัดผงกะหรี่ชีส ก็มีให้เลือกทานได้ตามใจ ส่วนไส้ที่เป็นเมนูเด็ดของทางร้านจะเป็นเมนู Japanese Style อย่าง S1 ไส้ไข่หวาน ปลาโอแห้ง+ชีส, S5 หอยเชลล์อบชีส และ S8 หน้าขาปูหิมะญี่ปุ่นอบชีส (ตัวท็อปสุด) แต่ถ้าเป็นแนว European Style ก็จะเป็นเมนู S10 ไข่คน เบค่อน ชีส ซอสเทาส์ซันไอแลนด์ ซึ่งซอสเทาส์ซันไอแลนด์ เป็นซอสที่มีความพิเศษกว่าร้านอื่นๆ นอกจากไส้เครปที่กล่าวมานั้นยังมีอีกเมนูที่เป็นที่นิยมคือ S13 4 Cheese Lover เมนูนี้สำหรับผู้ที่ชอบทานชีสโดยเฉพาะ เพราะชีสของทางร้านจะมีความหอมและเข้าถึงรสชาติได้อย่างเต็มคำอีกด้วย

“ถ้าใครไม่รู้เลือกไส้ไหน เราขอแนะนำ แป้งชาร์โคล ไส้แซลมอนรมควัน ซอสไข่ปลาเมนไตโกะ สัมผัสถึงความสดของแซลมอน กลิ่นของไข่ปลาเมนไตโกะที่เข้มข้นลงตัวกับแป้งกรอบชาร์โคล ส่วนใครที่ยังหลงรักไส้เบสิคแบบเดิม ทางร้านก็มีมาให้เลือกเหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนคือความอร่อยที่จะได้สัมผัส หรือถ้าอยากจะ Mix & Match เองก็ทำได้เหมือนกัน สามารถเลือกแป้ง เลือกไส้ เลือกซอส อยากจัดท็อปปิ้งอันไหนได้หมดตามใจเรา” เชฟป๊อบ บอก

สำหรับร้าน Cook With Love Bakery ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบทานของหวานอย่างชีสทาร์ตที่เป็น The Best ของร้านชีสทาร์ตหอมๆ ทำสดใหม่พร้อมเสิร์ฟทุกวัน หรือจะเป็น Crepe With Love เครปสไตล์ ฟิวชั่นที่ผสมผสานแป้งเครปจากฝรั่งเศสกับไส้เครปที่หลากหลายจากวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมเข้าด้วยกัน จนทำให้ทางร้านได้รับสโลแกนที่ว่า “Test to start, Hard to stop. ง่ายที่จะเริ่ม ยากที่จะหยุด”

สำหรับใครชอบทานของหวานหรืออยากจะลองทานเมนูต่าง ๆ ของทางร้าน จึงไม่ควรพลาด ร้าน Cook With Love Bakery เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.30-20.30 น. พิกัดร้าน : มีโชค พลาซ่า เชียงใหม่ (ทางเข้าริมปิง) เบอร์โทร.085-355-3966 หรือช่องทางติดต่ออื่นๆ Line: cwl03 , IG: cookwithlovecnx, Facebook: cookwithlovecnx

นางสาวอนุชิดา พาลี – นางสาวสุดารัตน์ รัตนชัย นักศึกษาฝึกประสบการณ์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นางสาวกชกร ฉัตรกั้น-นางสาวมลิวัลย์ ศรีวรกุล นักศึกษาฝึกประสบการณ์ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชา ประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร รายงาน

ร่วมแสดงความคิดเห็น