สวนสัตว์จัดฉลองตรุษจีน มอบอั่งเปาให้สองแพนด้า ขวัญใจชาวเชียงใหม่

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผอ.สวนสัตว์ พร้อมด้วย นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผช.ผอ.สวนสัตว์ และเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ สวมใส่ชุดจีนสีแดงอย่างพร้อมเพรียง นำนักท่องเที่ยวและเด็กๆ จำนวนมาก ร่วมกิจกรรมฉลองเทศกาลตรุษจีนของสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยร่วมกันมอบอั่งเปาให้กับหมีแพนด้า “ช่วงช่วง” ตัวผู้ และ “หลินฮุ่ย” ตัวเมีย สองทูตสันถวไมตรี ไทย-จีน เป็นของขวัญเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ตามธรรมเนียมประเพณีของชาวจีน ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก พร้อมกับความสุขและรอยยิ้มของผู้ร่วมกิจกรรม ที่ได้ชมความน่ารักของหมีแพนด้าทั้งสองตัว

ทั้งนี้ภายในส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า มีการจัดตกแต่งบรรยากาศ ให้เข้ากับช่วงเทศกาลตรุษจีน ด้วยการประดับโคมจีนสีแดงและมังกร ขณะที่อั่งเปาที่มอบให้กับหมีแพนด้า “ช่วงช่วง” ตัวผู้ และ “หลินฮุ่ย” ตัวเมีย สองทูตสันถวไมตรีไทย-จีนนั้น เป็นผลไม้อาหารโปรดของหมีแพนด้าทั้งสองตัว ได้แก่ แอปเปิ้ล และองุ่น ใส่ซองอั่งเปาสีแดงป้อนให้กับหมีแพนด้าทั้งสองตัว นอกจากนี้ยังมีการจัดกองน้ำแข็งและหวานเย็น ให้เป็นของขวัญพิเศษอีกด้วย

โดยเมื่อ “ช่วงช่วง” หมีแพนด้าตัวผู้ ได้รับอั่งเปาแล้ว ได้แกะซองและกินอาหารที่บรรจุอยู่ข้างในทันที อย่างเพลิด เพลินและมีความสุข ส่วน “หลินฮุ่ย” หมีแพนด้าตัวเมีย กลับไม่สนใจอั่งเปาที่ได้รับแต่อย่างใด เอาแต่เดินวนเวียนไปมาเท่านั้น ซึ่งมีการแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ มาแล้วอย่างน้อย 2-3 วัน และคาดว่าอาจจะเป็นสัดใกล้ที่ จะพร้อมผสมพันธุ์แล้ว

ผอ.สวนสัตว์ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลตรุษจีน ด้วยการมอบอั่งเปาให้สองหมีแพนด้าทูตสันถวไมตรีไทย-จีน ทั้งนี้พบว่าในช่วงนี้ ที่ตรงกับช่วงเทศกาลตรุษจีนพอดีนั้น ปรากฏว่า “หลินฮุ่ย” หมีแพนด้าตัวเมีย ได้มีการแสดงออกพฤติกรรม ที่แตกต่างจากช่วงปกติอย่างเห็นได้ชัดมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีอาการกระวนกระวายเดินวนเวียนไปมาตลอดทั้งวัน จากปกติที่จะเอาแต่กินอาหารและนอนหลับเป็นหลัก นอกจากนี้ยังพบว่ามีการแสดงพฤติกรรมป้ายกลิ่นด้วย

ขณะที่จากการสอบถามข้อมูลของเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลระบุว่า ขณะนี้ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ควบคุมการเป็นสัดของ “หลินฮุ่ย” เพิ่มขึ้นจากปกติถึง 3 เท่าตัว ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่า “หลินฮุ่ย” เป็นสัดแล้ว เหลือเพียงแค่การเฝ้าติดตามว่าระดับฮอร์โมนจะเพิ่มขึ้นสูงสุด จนกระทั่งตกไข่เมื่อใดเท่านั้น ก็จะพร้อมที่จะทำการผสมพันธุ์ได้ทันที โดยที่ทางคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย มีการเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และได้มีการเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้เป็นอย่างดีแล้ว คาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จ ในการผสมพันธุ์จนได้ลูกหมีแพนด้าอีกตัวที่เกิดในประเทศไทย