สาวใหญ่มหาภัย ใช้ยาหงายเงิบ มอมเหยื่อปลดทรัพย์ หลอกคนที่อาเขต ไปร่วมหลับนอน หลงกลโดนเพียบ รับหาเงินเข้าบ่อน

สาวใหญ่มหาภัย……….ตำรวจสภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ จับกุมนางรสสุคนธ์ มีสมศักดิ์ หรือปุ้ย อายุ 51 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 2/2 หมู่ 4 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาป้ายยาสลบเหยื่อ หลังตระเวนหลอกเหยื่อไปส่งตามสถานที่ต่างๆ แล้วชักชวนหลับนอนพอเหยื่อเผลอป้ายยาสลบปลดทรัพย์แล้วหนี ตามข่าว

จับแล้วสาวใหญ่มหาภัย หลอกเหยื่อไปร่วมหลับนอนก่อนใช้ “ยาหงายเงิบ” ปลดทรัพย์ ได้เงินไปเล่นการพนันในบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน พอเงินหมดหวนก่อเหตุซ้ำอีก โชเฟอร์รถโดยสารในเชียงใหม่-ลำปางเป็นเหยื่อหลายราย แฉหาเหยื่อตามสถานีขนส่งอาเขต

เมื่อเวลา 15.00 น วันที่ 29 ม.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.อดุลย์ สมนึก ผกก.พ.ต.ต.ณรงค์ชัย เอกฉันท์ สว.สส.ร.ต.อ.เอกภัทร คูหามุข รอง สว.สส.ร.ต.ท.สุรศักดิ์ ตันเต รอง สว.สส.สภ.ช้างเผือก พร้อมกับพวกได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าพบหญิงสาวที่มอมยาเหยื่อหลายรายกลับมาป้วนเปี้ยนหาเหยื่อต่ออีกครั้งที่ บริเวณสถานีขนส่งอาเขต อ.เมืองเชียงใหม่ ขอให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินการจับกุมโดยด่วน

เมื่อได้รับแจ้งแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จึงได้นำกำลังไปจับกุมดังกล่าว พร้อมหมายจับกุมของศาลจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ จ.8.2560 และ จ 9/2560 ถึง 2 หมายจับกุม คดีชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายทั้งกายและจิตใจ เป็นหญิงไม่ทราบชื่อ หมายจับลงวันที่ 9 มค 60 ทั้งสองหมาย เมื่อไปถึงพบผู้เสียหายชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว ทางตำรวจได้แสดงหมายจับและสอบถามผู้ต้องหา ก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นบุคคลที่ถูกศาลออกหมายจับจริงทั้งสองหมาย ประกอบกับผู้เสียหายที่มาชี้ให้จับกุมจำได้ ทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้ ทราบชื่อหญิงดังกล่าวต่อมาว่า นางรสสุคนธ์ มีสมศักดิ์ หรือปุ้ย อายุ 51 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 2/2 หมู่ 4 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่ และได้มีผู้เสียหายจำนวนหลายรายได้มาชี้ตัวและยืนยันว่าเป็นหญิงที่หลอกลวงพวกตนเองไปส่งแล้วมอมยาเอาทรัพย์สินไป ผู้เสียหายบางคนจำหมวกไหมพรมสีแดงของผู้ต้องหาได้ บางคนก็จำทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาเอาไปได้ จากการสอบนางรสสุคนธ์ ผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่า ได้ไปหลอกเหยื่อตามสถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ หาเหยื่อที่มีทรัพย์สินในตัวทั้งนาฬิกา สร้อยคอทองคำ โดยเฉพาะพวกรถรับจ้างสี่ล้อต่างๆ เมื่อสบโอกาสก็จะเข้าไปว่าจ้างให้ไปส่งที่ไกลๆ ทั้งลำปาง หรือไม่ก็ไปขึ้นดอยอินทนนท์ โดยเหยื่อแต่ละคนนั้นตนจะยอมลงทุนให้เงินมัดจำก่อน 500 บาท จากนั้นก็จะให้ไปส่งตามจุดหมาย ระหว่างทางก็จะชักชวนให้ไปนอนค้างกับตน เหยื่อคนไหนหลงเชื่อก็จะเอายาสลบที่เตรียมไว้ใส่ในน้ำดื่มหรือเครื่องดื่มต่างๆ ให้กินและก็ปลอดทรัพย์สิน โดยทำสำเร็จที่ จ.ลำปาง คนหนึ่ง ได้ทรัพย์สินมาจำนวนมาก ได้เงินมาก็เอาไปเล่นการพนันที่ประเทศเพื่อนบ้าน ปอยเปต

หากเงินหมดก็จะออกมาตระเวนหาเหยื่ออีกทางภาคเหนือ ภาคอีสาน แล้วแต่จังหวะ โดยจะหาเหยื่อพวกรถรับจ้างเป็นหลัก ซึ่งก็สำเร็จ 2-3 ราย มีรายล่าสุดเป็นสี่ล้อรับจ้างสีแดง ตนเห็นกำลังนวดแผนโบราณอยู่ในอาเขตขนส่งและเห็นว่า สี่ล้อรับจ้างดังกล่าวใส่ทองเส้นใหญ่ จึงได้วางแผนให้ไปส่งที่ ลำปาง โดยให้เงินมัดจำ 500 บาท ระหว่างไปส่งที่ลำปางก็จะชักชวนเข้าม่านรูดแต่ไม่สำเร็จ จึงได้บอกให้จอดรถที่ร้านสะดวกซื้อนำยาสลบใส่ในเครื่องดื่ม “สก็อตรังนก” และเอามายื่นให้คนขับรถกิน แต่ไม่สำเร็จยอมเสียเงินเพิ่มค่าน้ำมันอีก 1,000 บาท ระหว่างทางอีกและหลอกให้เหยื่อไปส่งที่ดอยอินทนนท์ ดูแล้วเห็นว่าเหยื่อสี่ล้อแดงไหวตัว จึงได้หาทางหลบหนีไป กระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด ยอมรับว่าหลอกเหยื่อสำเร็จมาแล้ว 2-3 ราย ที่ ลำปาง ที่เป็นข่าวเหยื่อรายนั้นสำเร็จ และก่อนหน้านั้นอีกทั้งที่ จ.แพร่ มาสี่ล้อแดงคนล่าสุดไม่สำเร็จ

สำหรับของกลางที่ทางตำรวจยึดได้จากตัวของผู้ต้องหาประกอบด้วย เงินสด นาฬิกาของผู้เสียหาย ยาสลบ เป็นเม็ด และแคปซูล หลอดยาเพื่อผสมกับยาสลบ โดยผู้ต้องหายอมรับว่ายาสลบนั้นได้หาซื้อมาจากร้านขายยาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยยาสลบประเภทนี้ จะเรียกกันในวงการ ว่า “ยาหงายเงิบ” กินแล้วก็จะรู้สึกสลึมสลือและก็จะสลบไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น