สกู๊ปหน้า1…ไฟป่ามาแล้ว ครั้งแรกของปี

เทศกาลไฟป่า เริ่มแล้วที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เร่งดับไฟจ้าละหวั่น หลังดาวเทียมตรวจเจอจุดไฟป่า ในพื้นที่ บ้านสบสา ต.เมืองแปง จาก 3 จุด ดับได้เพียง 2 อีกแห่งไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากเป็นเทือกเขาสูงชัน

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าในเขตพื้นที่ ว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ได้รับรายงานจาก นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าลุ่มน้ำปาย ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่า เข้าดับไฟป่า ตามจุด Hotspot ที่ได้รับแจ้งจาก จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 3 จุด ดังนี้

จุดที่ 1 Hotspot เวลา 11.00 น. พิกัด 435728E 2127149N ดำเนินการดับแล้วเสร็จ เมื่อ 18.45 น. พื้นที่เสียหายประมาณ 10 ไร่ สาเหตุหาของป่า เฝ้าระวังเหตุการณ์ในพื้นที่

จุดที่ 2 Hotspot เวลา 11.00 น. 435531E 2128274N พื้นที่ห่างไกลและเป็นดอยสูงชันไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เวลานี้ เฝ้าระวังเหตุการณ์ในพื้นที่

จุดที่ 3 Hotspot เวลา 14.00 น. พิกัด 434866E 2126852N ดำเนินการดับแล้วเสร็จ เมื่อเวลา 17.00 น. พื้นที่เสียหาย ประมาณ 20 ไร่ สาเหตุหาของป่า โดยจุดเกิดไฟป่า ทั้ง 3 จุด อยู่บริเวณพื้นที่ บ.สบสา ม.4 ต.เมืองแปง อ.ปาย จ. แม่ฮ่องสอน ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย

การเกิดไฟป่าดังกล่าวถือว่าเป็นการเกิดไฟป่าครั้งแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน สรุปจุดความร้อน (hotspot) วันที่ 31 มกราคม พบจุดความร้อนจำนวน 7 จุด ได้แก่ 1.ตำบลเมืองแปง อำเภอปาย 3 จุด, 2.ตำบลห้วยปูลิง อำเภอเมือง จำนวน 3 จุด, 3. ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จำนวน 1 จุด ทำให้จุดความร้อนสะสมตอนนี้มี 12 จุด (เท่ากับปี 2558)

สำหรับแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าของกองทัพภาคที่ 3 ในปีนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ มีเป้าหมายในการรณรงค์แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนว่า เบื้องต้นมีการตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้จะต้องไม่เกิดปัญหาไฟป่าหมอกควันที่รุนแรงถึงขั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมทั้งจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินอากาศของเครื่องและการท่องเที่ยวด้วย ทั้งนี้ในแง่ของการเผานั้น ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2560 นี้ จะลดจุดความร้อนที่เกิดจากการเผา หรือ ฮอตสปอต (Hotspot) ลงจากปี 2559 ที่ผ่านมาอย่างน้อย 20% หลังจากที่ในปี 2559 ลดลงจากปี 2558 ประมาณ 48% ซึ่งมั่นใจว่าสามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจังและเต็มที่

เจ็ดขุนพล